เมื่อวันที่ 30 มี.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้ ท่ามกลางวิกฤติโรคโควิด ทำให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และ ประชาชน ต่างหามาตรการดูแลควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด และให้ เกิดความปลอดภัย มากที่สุด ซึ่งทำให้ ทุกภาคส่วน เกิดความต่านตัว ที่จะ ผลิตคิดค้น วัสดุอุปกรณ์ในการ ควบคุม ป้องกัน ทั้งหน้ากากอนามัย รวมถึง เจลล้างมือ ไปจนถึงอุปกรณ์ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดปัญหาขาดแคลน รวมถึง เพิ่มมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้ผลมากที่สุด เช่น เดียวกัน กับอำเภอนาแก โดย นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก จ.นครพนม ได้ ร่วมกับ ภาครัฐ เอกชน รวมถึงกลุ่มพันธมิตรคนรักนาแก และ เยาวชนจิตอาสา ได้ร่วมกัน คิดค่อนออกแบบ ทำตู้ฆ่าเชื้อต้นแบบ ราคาประหยัด ราคาประมาณ 20,000 – 25,000 บาท เพื่อนำมาทดลองใช้ ในที่ว่าการอำเภอนาแก เนื่องจากแต่ละวัน มีประชาชน เดินทางมาติดต่อราชการ ทำให้ เกิดความเสี่ยง ในการแพร่เชื้อ จึงได้ ร่วมมือกัน คิดค้น ประดิษฐ์ตู้ฆ่าเชื้อ นำมาติดตั้ง ที่ว่าการอำเภอนาแก ให้ ประชาชน หรือผู้มาติดต่อราชการ ได้ เกิดความมั่นใจ อีกทั้งเป็นมาตรการ ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ในสถานที่ราชการ เบื้องต้นได้ นำร่องทำลองใช้ในที่ว่าการอำเภอนาแก และจะมีการขยายการผลิต ไปติดตั้งตามหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนหมู่บ้าน สถานที่เสี่ยง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย มากที่สุด
นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับอำเภอนาแก ได้ขานรับนโยบายรัฐบาล รวมถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ มีการประชาสัมพันธ์ ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจชาวบ้าน ในการ สร้างความร่วมมือ ช่วยกัน ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อโควิด นอกเหนือจากทางอำเภอ ได้ รับ เจ้าหน้าที่ รวมถึง ภาคเอกชน และประชาชน ลงพื้นที่ ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ผู้เดินทางข้าม จังหวัด เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อม ไปยัง จ.สกลนคร และ จ.มุกดาหาร ไปจนถึง เพิ่มมาตรการดูแล ในจุดเสี่ยง สถานที่ราชการ ตลาดสด และขอให้ประชาชน สวมหน้ากากอนามัย ทุกครั้ง ก่อนออกจากบ้าน และคัดกรองตรวจสอบ บุคคลที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดทุกราย ให้มีการกักตัวเอง 14 วัน นอกจากนี้ ในมาตรการควบคุม ได้ร่วมมือกับ เอกชน ภาคประชาชน กลุ่มพันธมิตร คนรักนาแก สนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่ง รวมถึงความร่วมมือของเยาวชนจิตอาสา ที่ร่วมคิดค้นวางระบบ คิดค้นประดิษฐ์ตู้ฆ่าเชื้อ ต้นทุนต่ำ ราคาประมาณ 20,000 – 25,000 บาท ทำจากวัสดุหาง่าย เหล็กทั่วไป มาประดิษฐ์กับ ผ้าพลาสติก ออกแบบ เป็นตู้ และติดตั้ง ระบบพ่นยาฆ่าเชื้อไว้ภายใน เพื่อนำไปติดตั้งใช้งาน ณ ที่ว่าการ อำเภอ เมื่อประชาชน นักท่องเที่ยว มาติดต่อราชการ จะต้องเดินผ่านระบบตู้ฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความปลอดภัย และเป็นมาตรการควบคุมป้องกันโรคระบาด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ คอยกำกับดูแลในการใช้งาน ทุกคนที่มาติดต่อราชการ จะต้องผ่านตู้ฆ่าเชื้อทั้งเข้า และออก ซึ่งเป็นตู้ฆ่าเชื้อที่ปลอดภัย ไม่กระทบต่อสุขภาพประชาชน และยังสามารถควบคุมการแพร่เชื้อโรคได้ โดยมีการทดลองใช้งานจริง เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อยอด และขยายการผลิตไปใช้งาน ตาม หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึง จุดเสี่ยง อาทิ ตลาดนัด ตลาดสด เพื่อควบคุมลดการแพร่เชื้อให้มากที่สุด ส่วนงบประมาณ จะขอสนับสนุนจากภาคเอกชน รวมถึง ผู้มีจิตศรัทธา ในการดำเนินการ
นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอำเภอนาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับอำเภอนาแก ได้ขานรับนโยบายรัฐบาล รวมถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ มีการประชาสัมพันธ์ ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจชาวบ้าน ในการ สร้างความร่วมมือ ช่วยกัน ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อโควิด นอกเหนือจากทางอำเภอ ได้ รับ เจ้าหน้าที่ รวมถึง ภาคเอกชน และประชาชน ลงพื้นที่ ตั้งจุดตรวจคัดกรอง ผู้เดินทางข้าม จังหวัด เนื่องจากเป็นเส้นทางเชื่อม ไปยัง จ.สกลนคร และ จ.มุกดาหาร ไปจนถึง เพิ่มมาตรการดูแล ในจุดเสี่ยง สถานที่ราชการ ตลาดสด และขอให้ประชาชน สวมหน้ากากอนามัย ทุกครั้ง ก่อนออกจากบ้าน และคัดกรองตรวจสอบ บุคคลที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดทุกราย ให้มีการกักตัวเอง 14 วัน นอกจากนี้ ในมาตรการควบคุม ได้ร่วมมือกับ เอกชน ภาคประชาชน กลุ่มพันธมิตร คนรักนาแก สนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่ง รวมถึงความร่วมมือของเยาวชนจิตอาสา ที่ร่วมคิดค้นวางระบบ คิดค้นประดิษฐ์ตู้ฆ่าเชื้อ ต้นทุนต่ำ ราคาประมาณ 20,000 – 25,000 บาท ทำจากวัสดุหาง่าย เหล็กทั่วไป มาประดิษฐ์กับ ผ้าพลาสติก ออกแบบ เป็นตู้ และติดตั้ง ระบบพ่นยาฆ่าเชื้อไว้ภายใน เพื่อนำไปติดตั้งใช้งาน ณ ที่ว่าการ อำเภอ เมื่อประชาชน นักท่องเที่ยว มาติดต่อราชการ จะต้องเดินผ่านระบบตู้ฆ่าเชื้อ เพื่อสร้างความปลอดภัย และเป็นมาตรการควบคุมป้องกันโรคระบาด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ คอยกำกับดูแลในการใช้งาน ทุกคนที่มาติดต่อราชการ จะต้องผ่านตู้ฆ่าเชื้อทั้งเข้า และออก ซึ่งเป็นตู้ฆ่าเชื้อที่ปลอดภัย ไม่กระทบต่อสุขภาพประชาชน และยังสามารถควบคุมการแพร่เชื้อโรคได้ โดยมีการทดลองใช้งานจริง เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะมีการพัฒนาต่อยอด และขยายการผลิตไปใช้งาน ตาม หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึง จุดเสี่ยง อาทิ ตลาดนัด ตลาดสด เพื่อควบคุมลดการแพร่เชื้อให้มากที่สุด ส่วนงบประมาณ จะขอสนับสนุนจากภาคเอกชน รวมถึง ผู้มีจิตศรัทธา ในการดำเนินการ