นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Watana Muangsook ระบุว่า... สภาพความไม่แน่นอนคือปัญหาของเศรษฐกิจ คล้ายกับการจับคนเข้าห้องมืดที่มองอะไรไม่เห็นทุกคนจะหยุดนิ่งไม่กล้าขยับตัว เศรษฐกิจก็เช่นกันหากคนมองไม่เห็นอนาคตคนก็จะไม่กล้าใช้เงินและลงทุน ยิ่งล่าสุดรองอธิบดีกรมควบคุมโรคระบุว่ารัฐกำลังปั่นตัวเลขผู้ป่วยเพื่อสร้างความหวาดกลัวยิ่งสร้างความสับสนกับประชาชน . วิกฤตที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ภัยแล้ง เหตุกราดยิงที่โคราช ไฟป่าที่ภาคเหนือ หรือโควิด ได้พิสูจน์แล้วว่าพลเอกประยุทธ์เป็นผู้นำไม่ได้เพราะเป็นตัวปัญหาเสียเอง จะเป็นได้ก็เพียงหัวหน้าหน่วยงานที่ต้องทำงานตามคำสั่งเพราะหากปล่อยให้คิดอะไรเองก็จะพังแบบที่ส่งมินิฮาร์ทให้ประชาชนท่ามกลางคนถูกฆ่าตาย . การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าพร้อมด้วยปลัดกระทรวงเป็นคณะทำงานคือตัวอย่างของรัฐราชการที่พลเอกประยุทธ์คุ้นชินแต่ล้มเหลว การประกาศล็อกดาวน์ประเทศปล่อยให้ต่างคนต่างทำโดยประชาชนไม่ทราบว่าจะจบอย่างไรเมื่อไรคือปัญหา วิกฤตที่เกิดครั้งนี้ยังพิสูจน์ว่ายุทธศาสตร์ชาติที่อวดโอ่กลายเป็นไร้ค่าเพราะใช้ประโยชน์ไม่ได้ ยังไม่นับรวมหลายองค์กรที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อค้ำยันอำนาจตัวเองจนเป็นภาระภาษีแต่ช่วยประชาชนไม่ได้ ส่วนจะเป็นองค์กรใดประชาชนคงคิดออก . หากตัวเลขคนติดเชื้อไม่มากแบบที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรคให้ข้อมูล รัฐต้องรีบผ่อนคลายมาตรการเปิดโอกาสให้คนยากจนได้ทำมาหากิน ภาพที่คนไปเข้าคิวรอเปิดบัญชีกับธนาคารเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือแปลว่าคนยากจนกลัวอดตายมากกว่ากลัวโควิด รัฐบาลจึงควรเตรียมมาตรการป้องกันโรค ตรวจโรคผู้ประกอบการและผู้ร่วมงาน และเตรียมอุปกรณ์จำเป็นสำหรับลูกค้าที่จะมาใช้บริการตามข้อ 11 ของข้อกำหนด แล้วอนุญาตให้ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมเปิดให้บริการก่อนที่คนจะอดตาย เชื่อเถอะว่าเวลาคนไม่มีกินอะไรก็เกิดขึ้นได้และจะน่ากลัวกว่าเหตุจลาจลที่เรือนจำบุรีรัมย์