เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 29 มี.ค.63 ได้มีผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ ประมาณ 100 กว่าคน ได้ทำลายประตูห้องเยี่ยมญาติออกมาและวิ่งหลบหนีจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้กลับเข้าไป แต่ผู้ต้องขังไม่เชื่อฟังและวิ่งหลบหนีออกมา เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงได้ร้องขอกำลังจากหน่วยต่างๆ ได้แก่ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหาร หน่วยดับเพลิงเทศบาล กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดบุรีรัมย์ เข้ามาช่วยสกัดไม่ให้ผู้ต้องขังออกจากเรือนจำ แต่ยังมีนักโทษบางคนวิ่งหลบหนีไปได้ ต่อมา เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและจับตัวนักโทษที่หลบหนีได้ จำนวน 7 คน​ แต่กระนั้นก็ตาม​ สถานการณ์ยังไม่มีทีท่าจะยุติและคลี่คลายลง​ เหตุการณ์ความวุ่นวายยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง​ กว่าสถานการณ์จะยุติและคลี่คลายลงได้ใช้เวลากว่าหลายชั่วโมงทีเดียว​ ในโอกาสนี้สยามรัฐออนไลน์จึงถือโอกาสลำดับเหตุการณ์เป็นไทม์ไลน์มาลงให้ได้อ่านกันดังนี้ เวลา 14.05 น. ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้ขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่จากเรือนจำข้างเคียงเข้ามาช่วย และนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำคณะทำงาน เข้ามาร่วมบริหารสถานการณ์ ได้แก่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 และเจ้าหน้าที่เรือนจำ เจ้าหน้าทีฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็ภัยเทศบาล ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา และกำลังหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ ประมาณ 500 คน เข้าร่วมดำเนินการระงับเหตุ ซึ่งในขณะนั้น นักโทษภายในเรือนจำได้ก่อเหตุจุดไฟเผาอาคารเรือนนอนและสถานที่ภายใน เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงอยู่เป็นระยะ ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่เรือนจำ (หญิง) จำนวน 2 คน ติดอยู่ภายในเรือนจำ และต่อมาสามารถช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่เริ่มเคลื่อนย้ายผู้ต้องขังหญิง ไปยังเรือนจำนางรอง จำนวน 93 คน และเวลา 16.35 น.ส่งไปเรือนทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา จำนวน 111 คน รวม 204 คน เวลา 15.40 น. พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. , พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภ.3 , พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 ได้เดินทางมาร่วมประชุมทีมบริหารสถานการณ์ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ภายในได้และได้มีการเคลื่อนย้ายนักโทษชาย จำนวน 1,902 คน ไปยังเรือนจำข้างเคียง ดังนี้คือ แยกไปเรือนจำจังหวัดยโสธรจำนวน 25 คน เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ 50 คน เรือนจำอำเภอพล 57 คน เรือนจำอำเภอกันทรลักษณ์ 20 คน เรือนจำอำเภอท่าพริก 620 คน เรือนจำจังหวัดขอนแก่น 200 คน เรือนจำจังหวัดนครพนม 200 คน เรือนจำคลองไผ่ 100 คน เรือนจำจังหวัดนครราชสีมา 100 คน เรือนจำอำเภอสง่างาม 30 คน เรือนจำจังหวัดสุรินทร์ 150 คน เรือนจำรัตนบุรี 50 คน เรือนจำอำเภอบัวใหญ่ 100 คน เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ 50 คน เรือนจำอำเภอนางรอง 93 คน เรือนจำอำเภอสีคิ้ว 100 คน เรือนจำจังหวัดขอนแก่น 50 คน เวลา 19.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รอง ผบ.ตร. , รอง ผบช.ภ.3 , ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ , ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 26 ได้ร่วมแถลงข่าวต่อสิ่อมวลชนและประชาชนที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ การปฏิบัติการในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย นักโทษเรือนจำ จำนวน 2,016 คน ปลอดภัยทุกคน การดำเนินการเคลื่อนย้ายนักโทษไปยังเรือนจำข้างเคียง สามารถดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเมื่อได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพิ่มเติมแล้วจะได้รายงานให้ทราบต่อไป