เจ้าหน้าฝ่ายปกครอง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับหลายหน่วยงาน ตั้งด่านตรวจเข้ม 4 จุด รอบหมู่บ้านหัวถนน หนึ่งใน 3 หมู่บ้าน ที่ถูกสั่งปิดเป็นพื้นที่ควบคุมห้ามคนเข้า-ออก หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในหมู่บ้านถึง 4 ราย หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ ขณะทั้งจังหวัดพบผู้ป่วยสะสมแล้ว 9 ราย วันนี้(28 มี.ค.63) บรรยากาศที่บ้านหัวถนน หมู่ 7 ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 หมู่บ้านที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีมติสั่งปิดเป็นพื้นที่ควบคุมห้ามคนเข้า-ออกนอกหมู่บ้านอย่างเด็ดขาด หลังจากพบคนในหมู่บ้านติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 4 ราย เป็นพ่อ (ชาวต่างชาติ) แม่ลูก(ชาวไทย) 3 ราย และเพื่อนบ้านที่ขับรถให้อีก 1 ราย ซึ่งวันนี้ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบ้านกรวด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปศุสัตว์อำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) ทำการตั้งด่านตรวจที่บริเวณทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ทั้ง 4 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้คนเดินทางเข้า-ออกนอกหมู่บ้านตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ส่วนรถของเจ้าหน้าที่ที่มีความจำเป็นจะต้องเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ก็จะสวมใสเครื่องป้องกันอย่างมิดชิด ส่วนยานพาหนะก็ต้องมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทั้งเข้าและออก นายวินัย โตเจริญ นายอำเภอบ้านกรวด ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ระดับพื้นที่ ระบุว่า หลังจากคณะกรรมการโรคติดต่อได้ออกประกาศให้บ้านหัวถนน เป็นพื้นที่ควบคุมห้ามคนเข้า-ออกเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเป็นควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทางอำเภอก็ได้ร่วมกับหลายหน่วยงาน ตั้งด่านตรวจเข้มตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้า-ออกอย่างเด็ดขาด แต่หากมีความจำเป็นจะต้องเข้า-ออก ต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ หรือผู้บัญชาการเหตุการณ์เท่านั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเรื่องเสบียงอาหารก็ได้รับการสนับสนุนจากทางองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และ อบต.ในพื้นที่ รวมถึงเหล่ากาชาดจังหวัด ก็จะนำมามอบให้ที่บริเวณด่านตรวจสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จากนั้นก็จะมีตัวแทนในหมู่บ้านนำไปแจกจ่ายต่อให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านซึ่งมีทั้งหมด 238 ครัวเรือน นางรวย ขวัญมา ประธาน อสม.ตำบลโนนเจริญ อ.บ้านกรวด บอกว่า หลังจากที่มีการปิดหมู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อ ทาง อสม.ก็ได้มาร่วมทำหน้าที่บริเวณจุดตรวจเข้า-ออกหมู่บ้านด้วย ส่วนในหมู่บ้านก็จะให้ อสม.ที่อยู่ในหมู่บ้านอยู่แล้วทำหน้าที่ในการตรวจคัดกรองชาวบ้าน หากใครมีอาการผิดปกติก็จะรายงานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ จากข้อมูลรายงาน พบว่า จังหวัดบุรีรัมย์มียอดผู้ป่วยสะสมทั้งจังหวัด จำนวน 9 ราย เป็นชายชาวต่างชาติ 2 ราย และหญิงชาวไทย 7 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรักษาตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ และโรงพยาบาลประจำอำเภอ รวมถึงโรงพยาบาลสนามของเอกชน ซึ่งการสั่งปิดหมู่บ้านทั้ง 3 หมู่ในครั้งนี้ เนื่องจากมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อวันเดียวถึง 4 ราย และเป็นการติดเชื้อระหว่างคนในพื้นที่ ทั้งทั้งมีพฤติกรรมเสี่ยงคือไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับคนในหมู่บ้านด้วยกันอีกหลายครั้ง จนทำให้มียอดผู้เสี่ยงสัมผัสที่ต้องกักตัวอีก 15 คน ต่างจากผู้ป่วย 5 รายแรก ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ และคนที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่จังหวัด