ทบ.แจงดูแลค่ารักษา "พลฯณัฐพันธ์ " ขาเจ็บ จากปรับปรุงวินัย เต็มที่ ไม่เคยละเลย หลัง "แม่พลฯณัฐพันธ์ " ร้องขอเงินค่ารักษาพยาบาล ระบุ "ร.อ.วานิช" ปรับปรุงวินัยด้วยท่าพุ่งหลัง ทำให้ขาเจ็บ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีมีสื่อเสนอข่าว ว่านางอนุช โพธิ์หอม ชาวบ้าน จ.นครสวรรค์ที่เรียกร้องให้ ร.อ.วานิช เงินดวง ซึ่งเป็นคู่กรณีของ พลทหารณัฐพันธ์ ชูฉ่ำ ลูกชาย ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ผลัด 1/2558 สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 4 ค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ ที่กำลังจะปลดประจำการใน 30 เม.ย. 2560.นี้ ให้ชดใช้ค่าเสียหาย จากการที่ ร.อ.วานิช เงินดวง ได้เป็นผู้ควบคุมการออกกำลังกายปรับปรุงวินัย ด้วยท่าพุ่งหลัง จนขาของลูกชายที่เคยบาดเจ็บอยู่เดิมและเคยเข้ามารักษาตัวกับทาง รพ.ค่ายจิรประวัติ โดยมีแพทย์ประจำ รพ.เป็นผู้ทำการผ่าตัดและรักษาให้ รวมถึงให้มีการลาพักฟื้นไปแล้วเกือบ 4 เดือน เกิดอาการบาดเจ็บซ้ำ จึงทำให้มีความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาจากนี้ไป พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่าเบื้องต้นทราบว่า เหตุเกิดจากการออกกำลังกายเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นการปฏิบัติรวมพร้อมกัน 50 คน หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติยังไม่พบสิ่งผิดปกติ เช้าวันรุ่งขึ้นคือ 4 เม.ย. เจ้าตัวเรื่มรู้สึกเจ็บจึงไปแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงทำการส่งไปที่รพ.จิรประวัติอีกครั้ง ผลสรุปว่าแพทย์จะเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ดามอยู่ภายในขาให้ใหม่ใช้วัสดุที่แข็งแรงกว่าเดิม โดยแพทย์ผู้รักษาผ่าตัดคนเดิม เมื่อวันที่ 8 เม.ย 60 โดยหลังผ่าตัด ทางหน่วยได้ให้ พลฯ ณัฐพันธ์ฯ กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ โดยมีผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลเยื่ยมตลอด ต่อมา เมื่อวันที่ 26 เม.ย.60 ทางนางอนุชและ พลฯณัฐพันธ์ฯ ได้มาขอตกลงพูดคุย กับผู้บังคับบัญชา และ แพทย์ เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ที่ ห้องรับรอง มทบ.31 มีรายละเอียดคือทางหน่วยยังคงยินดีที่จะดูแลรักษาพยาบาลให้จนกว่าจะหายเป็นปกติ ตามความเห็นแพทย์คาดว่าประมาณ 4 เดือน ซึ่งจะรับผิดชอบให้มีทั้ง ค่าเคลื่อนย้าย ค่ารักษาพยาบาล และ ค่าเยียวยาที่เหมาะสม "การที่มีข่าวเสนอผ่านสื่อออกมาว่าทางหน่วยไม่รับผิดชอบ กองทัพบกยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะทางหน่วยได้ให้การดูแลอย่างดีมาตลอด โดยเฉพาะ ร.อ.วานิช ที่เป็นผู้บังคับบัญชาที่ใกล้ชิด ยืนยันว่าได้ให้การดูแลและพูดคุยกันมาต่อเนื่องตั้งแต่ 4 เม.ย.60 จนถึงขณะนี้ แต่การให้การช่วยเหลือ คงไม่เป็นที่พอใจ ทางผบ.พล.ร.4 จึงได้มีการสั่งให้ตั้งคณะกรรมการมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและดูแลเรื่องนี้ให้เป็นการเพิ่มเติมต่อไป " พ.อ.วินธัย กล่าว