ลานบ้านกลางเมือง/บูรพา โชติช่วง : Social Distancing “อยู่บ้าน หยุดเชื้อCOVID-19 เพื่อชาติ” ดูหนังไทยสารคดีย้อนยุคในออนไลน์
ช่วง Social Distancing เว้นระยะห่างสังคม ทำตัว “อยู่บ้าน หยุดเชื้อCOVID-19 เพื่อชาติ”
สิ่งบันเทิงชั่วโมงนี้เห็นจะเป็นภาพยนตร์ ที่ดูจะช่วยฆ่าเวลายามว่างและผ่อนคลายได้ดีระดับหนึ่ง มีให้เลือกชมทั้งทางทีวีดิจัล ช่องสมาชิก และออนไลน์ โดยเฉพาะใครที่ชอบดูภาพยนตร์ไทยย้อนยุคและหาดูได้ยาก อยากแนะนำไปที่ยูทูบช่อง Film Archive Thailand ของหอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) หรือเฟสบุ๊กเพจหอภาพยนตร์ มีตัวอย่างหนังไทยให้ชมหลายเรื่องหลายรสก่อนดูเต็มเรื่อง ในที่นี้นำรายละเอียดตัวอย่าง 2 เรื่อง ให้อ่าน
เรื่องนี้เหมาะกับเซียนมวย นักมวย และใครที่คิดถึงสนามมวย เพลย์ลิสต์พาไปชมสนามมวยลุมพินีเมื่อปี 2506 ตั้งแต่ห้องพักนักมวยไปจนถึงเวทีในบรรยากาศคึกคักที่เต็มไปด้วยบรรดาแฟนมวยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก รวมถึงนักพากย์มวยคนสำคัญ มานิตย์ รักษ์สุวรรณ และ ธาดา เต็มบุญเกียรติ ภาพประวัติศาสตร์นี้อยู่ในสารคดี “มวยไทย” หนึ่งในผลงานชุด “มรดกของไทย” ของบริษัท เอสโซ่ ที่ผลิตออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 มาจนถึงราวปี พ.ศ. 2516
นอกจากสนามมวยลุมพินี สารคดียังเปิดเผยให้เห็นถึงการสอนมวยไทยของครูบัว วัดอิ่ม ครูมวยไทยสายโคราชที่สำคัญที่สุดคนหนึ่ง รวมถึงการฝึกซ้อมของขวัญใจแฟนมวย อภิเดช ศิษย์หิรัญ เจ้าของฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” แม้สารคดีนี้จะไม่มีเสียง เนื่องจากสมัยก่อนใช้วิธีการบรรยายสดขณะออกอากาศ แต่ก็คงพอจะช่วยคลายเหงาให้แฟนมวยในช่วงสนามมวยปิดชั่วคราวกันได้บ้าง
อีกเรื่อง ยามเมื่อแสงดับลา (Lucid Reminiscence) ผู้กำกับ วรรจธนภูมิ ลายสุวรรณชัย ได้ถ่ายทอดเรื่องราวยุคผ่านการพูดคุยกับกิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน, สมเกียรติ วิทุรานิช และ มโนธรรม เทียมเทียบรัตน์ คำอธิบายเล่าย่อๆ เมื่อ 30 ปีที่แล้วในยุคที่ยังไม่มีห้างสรรพสินค้า ไม่มีแหล่งบันเทิงมากมายเหมือนในปัจจุบัน ประเทศไทยมีการกำเนิดขึ้นของโรงหนัง stand alone มากกว่า 140 โรงเฉพาะในกรุงเทพฯ และอีกหลายร้อยโรงทั่วประเทศ การชมภาพยนตร์จึงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมาก ถือได้ว่าเป็นยุคทองของโรงหนังประเภทนี้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปโรงหนังแบบใหม่ได้ถูกผนวกเข้ากับห้างสรรพสินค้า โรงหนังแบบมัลติเพลกซ์ จึงค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้นมีผลทำให้กิจการโรงหนังแบบ stand alone ได้รับความนิยมลดลง นอกจากโรงหนัง stand alone จะทำหน้าที่เพื่อฉายภาพยนตร์ สถานที่เหล่านี้ยังเป็นตัวบันทึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ทั้งสถาปัตยกรรม ฟิล์มหนังที่บรรจุดาราและนักแสดง หรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมในการดูหนังที่เปลี่ยนไปซึ่งไม่สามารถหาได้ในยุคปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นการทำขึ้นเพื่อรำลึกถึงโรงหนังที่ตายซากถูกทิ้งไว้ในกาลเวลาและแอบซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ในกรุงเทพ โดยการนำความทรงจำและเรื่องเล่าของคนที่เคยไปดูมาชุบชีวิตใหม่เพื่อจำลองให้โรงหนังเหล่านี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
สำหรับในส่วนของสถานที่หอภาพยนตร์ ศาลายา จ.นครปฐม งดให้บริการโรงภาพยนตร์, พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทยและเมืองมายา ห้องสมุดและโสตทัศนสถาน เชิด ทรงศรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 และเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้มาใช้บริการ เป็นเวลา 14 วัน ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 แต่ในส่วนของสำนักงานยังคงเปิดทำการตามวันและเวลาปกติ โดยขอความร่วมมือให้ผู้มาติดต่อหอภาพยนตร์ปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองการเข้าพื้นที่อย่างเคร่งครัด
Social Distancing ปลีกตัวสังคมสักพัก “อยู่บ้าน หยุดเชื้อCOVID-19 เพื่อชาติ” ดูหนังไทยสารคดีย้อนยุคในออนไลน์
เรื่องนี้เหมาะกับเซียนมวย นักมวย และใครที่คิดถึงสนามมวย เพลย์ลิสต์พาไปชมสนามมวยลุมพินีเมื่อปี 2506 ตั้งแต่ห้องพักนักมวยไปจนถึงเวทีในบรรยากาศคึกคักที่เต็มไปด้วยบรรดาแฟนมวยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก รวมถึงนักพากย์มวยคนสำคัญ มานิตย์ รักษ์สุวรรณ และ ธาดา เต็มบุญเกียรติ ภาพประวัติศาสตร์นี้อยู่ในสารคดี “มวยไทย” หนึ่งในผลงานชุด “มรดกของไทย” ของบริษัท เอสโซ่ ที่ผลิตออกอากาศทางช่อง 4 บางขุนพรหม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505 มาจนถึงราวปี พ.ศ. 2516
นอกจากสนามมวยลุมพินี สารคดียังเปิดเผยให้เห็นถึงการสอนมวยไทยของครูบัว วัดอิ่ม ครูมวยไทยสายโคราชที่สำคัญที่สุดคนหนึ่ง รวมถึงการฝึกซ้อมของขวัญใจแฟนมวย อภิเดช ศิษย์หิรัญ เจ้าของฉายา “จอมเตะแห่งบางนกแขวก” แม้สารคดีนี้จะไม่มีเสียง เนื่องจากสมัยก่อนใช้วิธีการบรรยายสดขณะออกอากาศ แต่ก็คงพอจะช่วยคลายเหงาให้แฟนมวยในช่วงสนามมวยปิดชั่วคราวกันได้บ้าง
อีกเรื่อง ยามเมื่อแสงดับลา (Lucid Reminiscence) ผู้กำกับ วรรจธนภูมิ ลายสุวรรณชัย ได้ถ่ายทอดเรื่องราวยุคผ่านการพูดคุยกับกิตติศักดิ์ สุวรรณโภคิน, สมเกียรติ วิทุรานิช และ มโนธรรม เทียมเทียบรัตน์ คำอธิบายเล่าย่อๆ เมื่อ 30 ปีที่แล้วในยุคที่ยังไม่มีห้างสรรพสินค้า ไม่มีแหล่งบันเทิงมากมายเหมือนในปัจจุบัน ประเทศไทยมีการกำเนิดขึ้นของโรงหนัง stand alone มากกว่า 140 โรงเฉพาะในกรุงเทพฯ และอีกหลายร้อยโรงทั่วประเทศ การชมภาพยนตร์จึงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมาก ถือได้ว่าเป็นยุคทองของโรงหนังประเภทนี้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปโรงหนังแบบใหม่ได้ถูกผนวกเข้ากับห้างสรรพสินค้า โรงหนังแบบมัลติเพลกซ์ จึงค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้นมีผลทำให้กิจการโรงหนังแบบ stand alone ได้รับความนิยมลดลง นอกจากโรงหนัง stand alone จะทำหน้าที่เพื่อฉายภาพยนตร์ สถานที่เหล่านี้ยังเป็นตัวบันทึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ทั้งสถาปัตยกรรม ฟิล์มหนังที่บรรจุดาราและนักแสดง หรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมในการดูหนังที่เปลี่ยนไปซึ่งไม่สามารถหาได้ในยุคปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นการทำขึ้นเพื่อรำลึกถึงโรงหนังที่ตายซากถูกทิ้งไว้ในกาลเวลาและแอบซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆ ในกรุงเทพ โดยการนำความทรงจำและเรื่องเล่าของคนที่เคยไปดูมาชุบชีวิตใหม่เพื่อจำลองให้โรงหนังเหล่านี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
สำหรับในส่วนของสถานที่หอภาพยนตร์ ศาลายา จ.นครปฐม งดให้บริการโรงภาพยนตร์, พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทยและเมืองมายา ห้องสมุดและโสตทัศนสถาน เชิด ทรงศรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 และเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้มาใช้บริการ เป็นเวลา 14 วัน ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 แต่ในส่วนของสำนักงานยังคงเปิดทำการตามวันและเวลาปกติ โดยขอความร่วมมือให้ผู้มาติดต่อหอภาพยนตร์ปฏิบัติตามมาตรการคัดกรองการเข้าพื้นที่อย่างเคร่งครัด
Social Distancing ปลีกตัวสังคมสักพัก “อยู่บ้าน หยุดเชื้อCOVID-19 เพื่อชาติ” ดูหนังไทยสารคดีย้อนยุคในออนไลน์