ท่ามกลางสมรภูมิรบโควิด-19 คำสั่งปิดห้างสรรพสินค้า ตลาด รวมทั้งสถานบริการ ธุรกิจ สถานที่ จุดเสี่ยงประเภทต่างๆ อีกกว่า 20 ประเภททั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส ระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย.2563 รวม 22 วัน ยกเว้นให้โซนซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านยา ร้านอาหารที่ให้ซื้อกลับบ้าน ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นสัญญาณที่กระตุกประชาชนทั่วประเทศ ถึงความเข้มข้นของมาตรการในการเอาชนะกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมฤตยู และการยกระดับความรุนแรงของมาตรการ กระทั่งรัฐบาลกลาง โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารสถานการณ์ พล.ต.อ.อัศวินใช้อำนาจตามความมาตรา 35(1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. และกฎหมายประกอบอื่นๆ กรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เรียกว่ามีบทลงโทษที่รุนแรงเข้ามาบังคับ และแม้จะมีความสับสนในช่วงแรก ที่เป็นปัญหาการสื่อสารจากรัฐบาลกลาง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน แต่พล.ต.อ.อัศวินก็ออกแถลงการณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก พร้อมกับยืนยันให้ฟังจากกรุงเทพมหานคร และส่งผลให้ 5 จังหวัดปริมณฑล ประกอบด้วย สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี ได้ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแล้ว มีมติให้ปิดสถานที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม-12 เมษายน เช่นเดียวกับ กทม. แม้คำสั่งดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของประชากร เนื่องจากคนต่างจังหวัดซึ่งมาค้าแรงงานในเมืองหลวงเดินทางกลับภูมิลำเนา แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดในกทม.มีประสิทธิภาพ และอาศัยกลไกของท้องถิ่นของและจังหวัดเข้ามาช่วยในการควบคุมการแพร่ระบาด เฝ้าระวังจับตาคนที่เดินทางกลับจากทม. และมาตรการกักตัว 14 วัน ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวินมีคำสั่ง 7 ข้อดังนี้ 1.ขอความร่วมมือทุกท่านไม่เดินทางออกนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร 2.ขอความร่วมมือให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย และหมั่นทำความสะอาดร่างกาย ที่พัก จุดเสี่ยง จุดสัมผัสร่วมต่างๆ 3.ขอความร่วมมือหน่วยงานของรัฐและเอกชนทุกแห่งจัดทำมาตรการป้องกันโควิด-19 ตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนด รวมถึงให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตรอย่างเคร่งครัดโดยทันที 4.ขอความร่วมมือผู้ที่เดินทางไปสนามมวย สถานบันเทิงหรือสถานที่ที่พบผู้ติดเชื้อ พร้อมผู้ใกล้ชิดที่สัมผัสผู้ติดเชื้อ ให้กักตัวในที่พักตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข หากมีอาการให้รีบไปหาหมอทันที 5.หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากและแออัด และให้เว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร 6.ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานงดจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนเป็นจำนวนมาก และ 7.ขอความร่วมมือ หน่วยงานที่ให้บริการขนส่งมวลชนทุกแห่ง ลดความแออัดของผู้โดยสาร โดยขอความร่วมมือทุกๆ ท่านดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ของกรุงเทพมหานครอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ผู้ว่าฯอัศวิน เคยโชว์ผลงานเป็นที่ประจักษ์มาแล้วในเรื่องความเด็ดขาด ในการจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบแผงค้าริมฟุตบาธ ทำความสะอาดและปรับภูมิทัศน์คูคลอง และแม่น้ำเจ้าพระยา สมัยเป็นตำรวจได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า "บิ๊กวินปิดจ๊อบ" เนื่องจากมีการทำงานที่รวดเร็วและเฉียบขาด ฝากผลงานไว้กับคดีระดับชาติ หลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคดีจับกุม "สมคิด พุ่มพวง" คดี"โจ ด่านช้าง" หรือนายศุภฤกษ์ เรือนใจมั่น "กำนันเซี้ยะ"ประชา โพธพิพิธ คดีจับกุม นายพลพล ประสงค์ศิล หรือ "จิ๊บ ไผ่เขียว" และคดีวิสามัญฆาตกรรมนายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือ "โจ๊ก ไผ่เขียว" ตำแหน่งสุดท้ายในชีวิตราชการตำรวจคือ ตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังเกษียณอายุราชการ ฝึกงานการเมืองในตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. ของม.ร.ว.สุุขุมพันธุ์ บริพัตร ดูแลงานด้านเศรษฐกิจและการคลัง เมื่อม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ถูก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดออกจากตำแหน่ง พล.ต.อ.อัศวินจึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนมาถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ในสมรภูมิโควิด-19 ของผู้ว่าฯอัศวิน ไม่เพียงแต่ต้องรักษาความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเท่านั้น หากแต่ศึกนี้ยังเดิมพันอนาคตทางการเมืองของพล.ต.อ.อัศวิน แม้เจ้าตัวยังไม่ระบุแน่ชัดว่าจะสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย หากจะลงสู้ศึกในสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งหน้า ท่ามกลางคนที่ประกาศตัวเป็นคู่แข่งอย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม และกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า