วันที่ 26 มี.ค. เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์ไข่ไก่ขาดแคลนในขณะนี้ ว่า ประเทศไทยผลิตไข่ได้ประมาณวันละ 40 ล้านฟอง ถือว่าเพียงพอต่อการบริโภค บางช่วง ถึงขั้นไข่ไก่ล้นตลาด จนรัฐบาลต้องอุดหนุน แต่สถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนกังวลเรื่องไวรัสโควิด-19 ทำให้มีความต้องการสูงขึ้นใน 2-3 วันนี้ถึง 3 เท่า ทำให้ขาดตลาดบางช่วง ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปดู เพื่อไม่ให้เกิดการขายเกินราคาที่ควรจะเป็น เพราะจะกลายเป็นค้ากำไรเกินควร มีความผิดสามารถดำเนินคดีได้ โทษสูงสุดคือจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกรณีขายหน้ากากอนามัยเกินราคาเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าถูกจำคุกไปแล้ว เราจะประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ดำเนินการปราบปรามการค้ากำไรเกินควร ช่วงก่อนเที่ยงวันนี้ก็มีการจับกุมผู้ขายไข้เกินราคาแล้วที่ จ.พิษณุโลก ยืนยันว่าจะดำเนินคดีทุกราย อยากขอความร่วมมือว่าในช่วงวิกฤติเช่นนี้ ถ้ามาค้ากำไรเกินควรอีก ก็จะเป็นการซ้ำเติมประชาชน นายจุรินทร์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไข่ไก่ขาดตลาด ตนจะออกประกาศ ห้ามส่งไข่ไก่ออกนอกราอาณาจักรชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยเบ้องต้นให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นเวลา 7 วัน ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็จะขยายเวลาต่อไป รวมถึงประสานกรมปศุสัตว์ ไม่ให้อนุญาตการส่งออกด้วย และนอกจากเรื่องไข่แล้ว เรายังเคร่งครัดการจับกุมการขายเวชภัณฑ์เกินราคา ล่าสุดเพิ่งจับกุมร้านค้าที่ขายเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่ จ.ภูเก็ตไป ส่วนเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ดำเนินการ ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการผลิต และดูแลเรื่องการนำเข้า ขณะที่หน้ากากอนามัย กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นผู้ดูแล ขณะนี้ผลิตได้ 2.3-2.4 ล้านชิ้นต่อวัน โดยส่งให้กระทรวงสาธารณสุข แจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์ 1.3-1.5 ล้านชิ้นต่อวัน ส่วนที่เหลือมอบให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ เพราะมีศูนย์บัญชาการจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เนื่องจากมีอำนาจเบ็ดเสร็จในทุกเรื่อง