จากกรณีเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความถึงการจากไปของพ่ออายุ 70 ปี ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งเสียชีวิตหลังจากเข้ารับการรักษาเป็นเวลานานเกือบ 2 เดือน โดยก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาระบุด้วยว่า ผู้ป่วยรายนี้มีอาการติดเชื้อวัณโรคจากเดิม อย่างไรก็ตามลูกของผู้เสียชีวิตยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีวัดไหนยอมรับศพของพ่อ เพื่อที่ครอบครัวจะได้ทำพิธีกรรมทางศาสนา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 25 มี.ค.63 ที่วัดใหม่ลำนกแขวก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงาน ฌาปนกิจศพของ นายเอกศิษย์ ตันแดง อายุ 70 ปี ผู้ป่วยโควิด-19 เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติได้นิมนต์พระ มาสวดเพียงแค่ 1 คืน ก่อนจะมีการฌาปนกิจศพ
โดยบรรยากาศในงานศพ ทางวัดได้นำโลงศพเข้าไปในเตาเผาตั้งแต่เมื่อวานนี้(24 มี.ค.)แล้ว และได้โยงสายสิญจน์มาที่ศาลาสวด เพื่อสวดตามพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนทางญาติและผู้ที่เดินทางเข้ามาร่วมงานก็ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคน เพื่อความปลอดภัย
โดยก่อนเริ่มพิธี สัปเหร่อได้เตรียมการ สวมใส่ชุดป้องกันเชื้อ ตามที่แพทย์แนะนำและฉีดฆ่าเชื้อทั่วศาลาและเมรุ รวบไปถึงบริเวณรอบๆด้วย เมื่อเข้าสู่พิธีเผา ทุกคนในงานวางดอกไม้จันทร์ บนพานที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ ก่อนจะให้สัปเหร่อ นำไปวางไว้หน้าเตา โดยไม่ได้มีการเปิดเตา แต่เป็นการเผาด้านนอก หลังจากนั้น เมื่อถึงเวลาเผาทางวัดไม่อนุญาตให้ญาติขึ้นไปบนเมรุ จะอนุญาตให้มาเก็บกระดูกในตอนเช้าเท่านั้น และทางวัดก็จะฉีดฆ่าเชื้ออีกครั้ง
ด้านนายโจ้ สัปเหร่อ กล่าวว่า หลังจากออกข่าวไป ภรรยาให้กักตัวไม่ให้ทำงาน เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับศพ แต่ตนไม่ได้เห็นศพหรือว่าใกล้ชิดเลย ส่วนลูกของตนนั้นก็ถูกเพื่อนล้อ เพื่อนบ้านรังเกียจตนก็เครียด เพราะมองว่าตนอุทิศตัวเพื่อสังคม ทุกคนจึงเครียดมาก และหมอก็บอกว่าเชื้อตายไปแล้ว คนตายไม่น่ากลัวเท่าคนเป็นที่ไม่มีสติ อยากขอความเป็นธรรม เพราะตนไม่ใช่คนติดเชื้อ โดยทำตามขั้นตอนหมอทุกอย่าง จึงไม่อยากให้รังเกียจกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ทางญาติจะนำเถ้ากระดูกของ นายเอกศิษย์ ไปลอยอังคารที่ จ. ฉะเชิงเทรา

