ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรคหรือซีอีโอพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือรปช. โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า...
พรก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนนมากทั้งในยุโรป อเมริกา รวมทั้งไทย คือบทพิสูจน์ว่า มีคนปกติ แข็งแรง ไม่มีอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อได้ เมื่อมีประชาชนบางส่วนไม่ตระหนัก ประมาท ไม่รับรู้ถึงการแพร่เชื้อผ่านคนแข็งแรง จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ดูแลประชาชน จึงต้องออกกฏหมาย ในการบังคับประชาชนกระทำ หรือห้ามกระทำ เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนเอง ซึ่งก็คือพรก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป้าหมายการบังคับใช้กฏหมายฉบับนี้ ต้องอยู่บนหลักวิชาการก็คือป้องกันการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะจากผู้ที่ไม่มีอาการแต่แพร่เชื้อได้ ด้วยการให้ประชาชนอยู่บ้าน ไม่ร่วมกิจกรรมคนมากๆ ให้ห่างกัน ส่งเสริมให้ประชาชนดูแลตัวเองคือ ล้างมือบ่อยๆ ใส่หน้ากาก ส่วนคนที่มีความเสี่ยง แม้เก็บตัวในบ้านก็ต้องเฝ้าระวังและแยกตัวออกต่างหาก ส่วนธุรกิจก็ต้องดำเนินต่อ แต่ใช้คนให้น้อยที่สุด และต้องจัดระยะห่าง โดยคำนึงว่าทุกคนมีโอกาสเป็นพาหะนำเชื้อ การใช้พรก.ฉุกเฉินครั้งนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องอธิบายเหตุผล ทำไมต้องบังคับอยู่บ้าน ไม่ให้ล้อมวงสังสรรค์ แม้ตามชายหาดก็ไม่ได้ การพูดคุยควรห่าง 2 เมตร เพราะคนปกติบางคนแพร่เชื้อได้ จึงต้องพยายามอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่ดี ส่วนขั้นตอนและแผนงาน ทุกอย่างอยู่ที่รัฐบาล บนพื้นฐานของหลักวิชาการ จากเบาไปสู่แรงสุด ถ้าแรงสุดคงหนีไม่พ้นรูปแบบจีนก็คือ ห้ามออกจากบ้านตลอด ยกเว้นไปซื้ออาหาร เพราะเชื้อโรคนั้นแพร่เชื้อได้ตลอดไม่แยกกลางวันกลางคืน ทางที่ดีรัฐบาลควรกางแผนของรัฐบาล จากแผนแรกไปสู่แผนที่หนักให้ประชาชนทราบ ถ้าประชาชนร่วมมือ เราอาจไปไม่ถึงขั้นแรงสุด แบบโมเด็ลจีนที่อู๋ฮั่นก็ได้ ส่วนมาตรการเยียวยาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ ทราบว่ากำลังทะยอยออกมา สิ่งที่รัฐบาลต้องตระหนักมากๆคือเฟคนิวส์ ทางแก้ที่ดีที่สุด นอกจากแถลงชี้แจงแล้ว ควรใช้smsยิงผ่านมือถือส่งตรงถึงประชาชน ทุกเครือข่ายทุกเลขหมาย ในช่วงประกาศพรก. จะสามารถทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือ เตือนประชาชน และเป็นการแสดงความห่วงใย ที่ดีที่สุด ท้ายสุด พวกฝ่านแค้น พวกชังชาติที่ออกมาต่อต้านช่วงนี้ ถ้าไปอ่านในเฟสของพวกเขา เข้าใจว่า ประชาชนเข้าไปจัดการเรียบร้อยแล้ว #พรกฉุกเฉินใช้เพื่อป้องกันติดเชื้อจากคนแข็งแรงที่แพร่เชื้อ