“สาธารณสุข-ทำเนียบฯ” รวบศูนย์รายงานสถานการณ์เชื้อ “ไวรัสโควิด-19”ระบาดทั่วประเทศ เผย“ไวรัสมรณะ”คร่าคนไทยอีก3รวม4 ราย มีผู้ป่วยเพิ่ม 106 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 827 ราย ยอมรับห่วงกทม.ติดเชื้อทวีคูณ ส่วน “กระทรวงเกษตรฯ”ผวาหนัก!! พบขรก.ตรวจเจอเชื้อ 1 ราย เป็นผู้ติดตามผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ร่วมคณะ “ธรรมนัส” หลายพื้นที่ “ฮู”เตือน“โควิด-19” ระบาดเร็วแรงขึ้น ขณะที่“ไอโอซี” เลื่อน “โอลิมปิกโตเกียวเกมส์” ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค.63 นายประทีป กีรติเลขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในฐานะเลขานุการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.นี้ เป็นต้นไป การแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข จะย้ายมาแถลงข่าวร่วมกันที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ทำเนียบฯ แห่งเดียว โดยจะมีการแถลงในเวลา 10.00 น. และ 14.00 น.ของทุกวัน และหากมีสถานการณ์เร่งด่วนหรือสถานการณ์ฉุกเฉินก็สามารถเรียกแถลงข่าวได้ตลอดเวลา ต่อมา นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19ว่า ได้รับรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย โดยกลุ่มที่เป็นห่วงมากคือกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีแพทย์และพยาบาลจำนวน 4 ราย จากจภูเก็ต ยะลา บุรีรัมย์ และนครปฐม ขณะที่กลุ่มผู้ป่วยที่พบเชื้อ และรอตรวจสอบประวัติอีก 47 ราย และข้อมูลล่าสุด จากของเดิมมีผู้ป่วยอาการหนัก 7 ราย วันนี้(24มี.ค.)พบเสียชีวิตลงอีก 3 ราย เป็นผู้ชายทั้งหมด โดยคนแรกเป็นชายไทยอายุ 70 ปี ได้รับเชื้อ และป่วยเป็นวัณโรคอาการหนักตั้งแต่ต้น คนที่สองเป็นชายไทยอายุ 79 ปี เป็นเซียนมวย มีโรคประจำตัวหลายโรค อาการหนักตั้งแต่แรกรับและคนที่สาม เป็นชายไทยอายุ 45 ปี มีโรคเบาหวาน และโรคอ้วน รวมเสียชีวิต4ราย จากของเดิมเสียชีวิต 1 ราย ส่วนงานศพนั้น ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าจะมีการแพร่เชื้อจากศพสามารถไปร่วมงานได้ แต่อยากให้ระวัง ทั้งนี้ กรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นพื้นที่น่าห่วง เพราะมีอัตราคนติดเชื้อ 1 คน สามารถส่งต่อเชื้อได้ 3 คนครึ่ง ถ้าหากไม่รีบดูแลจะทำให้คนติดเชื้อทวี คูณขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ผู้ติดเชื้อ 1 คนสามารถส่งต่อเชื้อได้ 2 คน ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานโลก อย่างไรก็ตาม โดยสรุปรวมผู้ป่วยกลับบ้าน 57 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาล 766 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมผู้เสียชีวิต 4 ราย ผู้ป่วยสะสม 827 ราย เมื่อถามว่า มาตรการควบคุมที่ออกมา เช่น การให้ทำงานอยู่ที่บ้านจำเป็นต้องเพิ่มระดับมากกว่านี้ เช่นออกเป็นพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ฉุกเฉินหรือไม่ นพ.ทวีสิน กล่าวว่า เราเรียนรู้จากต่างประเทศ เขาค่อยๆ ปรับระดับจากอ่อนไปแข็ง รวมถึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน อย่างเช่น ประเทศจีนออกมาตรการอะไรมาประชาชนก็ให้ความร่วมมือถ้าไม่อยากให้ภาครัฐออกประกาศมาตรการที่เข้มข้นประชาชนต้องร่วมมือกันควบคุมโรค ยังรวมถึงระยะการแพร่ของโรคด้วยถ้าปล่อยให้ระบาดมากมาทำแค่ไหนก็ไม่พอ ด้าน พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ทั่วโลกพบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 192 ประเทศ ผู้ป่วยสะสม 3.66 แสนกว่าราย เสียชีวิต 16,098 ราย ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 31 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีคำยืนยันจากสำนักงานฝ่ายบุคลากรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่า ทางคณะแพทย์และพยาบาลได้นำรถพยาบาลมารับตัวข้าราชการคนหนึ่งจากที่พักและมีคำสั่งให้พักสังเกตอาการ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ เพราะเป็นผู้ติดตามผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ที่เดินทางไปตรวจราชการต่างจังหวัด ร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯอย่างต่อเนื่อง และหลายพื้นที่ ซึ่งทราบว่า เป็นเลขาฯผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯทำให้ข้าราชการในกระทรวงฯต่างวิตกกังวล เนื่องจากหลายคนได้เดินทางไปตรวจราชการร่วมกับผู้บริหารระดับสูงในหลายจังหวัด ทั้งนี้ ผู้เกี่ยวข้องได้กักตัวแล้ว โดยจะครบ 14 วัน ในวันที่ 25 มี.ค. เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผอ.องค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ(ฮู) มีแถลงการณ์ออกมาเตือนว่า เชื้อไวรัสโควิด–19 หรือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 กำลังอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดในอัตราที่เร่งขึ้น จนส่งผลทำให้มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไปทั่วโลกมากกว่า 3 แสนคนแล้ว และเกือบทุกประเทศล้วนได้รับผลกระทบ โดย ดร.กีบรีเยซุส ยังระบุด้วยว่า ภายในระยะเวลา 67 วัน ที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมากถึง 1 แสนราย และต่อมาอีก 11 วันหลังจากนั้น ก็มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 2 แสนราย ก่อนที่อีกเพียง 4 วันถัดมาเท่านั้น ผู้ป่วยติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3 แสนราย พร้อมกันนี้ ผอ.องค์การอนามัยโลก ได้แนะนำว่าขอให้ประชาชนทั่วโลกได้ตระหนักเห็นความสำคัญของมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และเรียกร้องให้ทางการประเทศต่างๆ ควรแจ้งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และมีการแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดแคลนของหน้ากากอนามัย ตลอดจนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขณะเดียวกัน ทางด้านสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงลุกลามไปในประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขของเมียนมาร์ เปิดเผยว่า พบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในประเทศเป็นครั้งแรก ภายหลังจากพบผู้ติดเชื้อจำนวน 2 ราย เมื่อช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยผู้ติดเชื้อทั้งสองรายดังกล่าว เป็นชายวัย 36 ปี เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐฯ และอีกรายเป็นชายวัย 26 ปี เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอังกฤษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังเฝ้าจับตาสังเกตอาการบรรดาผู้ใกล้ชิดของผู้ติดเชื้อทั้งสองแล้วอย่างใกล้ชิด รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากรายงานข่าวข้างต้นแพร่สะพัดออกไป ส่งผลให้ประชาชนชาวเมียนมาร์พากันแตกตื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนครย่างกุ้ง ก่อนพากันออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าตามร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ เพื่อไปกักตุนกันเป็นจำนวนมาก ด้านสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศสหรัฐฯ ยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้มีคำสั่งให้ห้างค้าปลีกทั่วประเทศปิดทำการชั่วคราวเป็นเวลาอย่างน้อย 2–3 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังระบุด้วยว่า ทางการจะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อให้ห้างฯ ต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ทันทีที่ทางการแพทย์มีความเห็นว่า สถานการณ์แพร่ระบาดคลี่คลายลง ด้าน คณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี โดยนายดิค พาวด์ หนึ่งในคณะกรรมการไอโอซี เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการฯ ได้มีการตัดสินใจกันไปแล้ว ให้เลื่อนการแข่งขันกีฬามหกรรมโอลิมปิก ซึ่งจะจัดขึ้น ณ กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ออกไป โดยเบื้องต้นทางไอโอซี จะเริ่มจัดการกับทุกกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนการแข่งขันซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายประการ ขณะที่ สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ล่าสุด ผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีจำนวนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 381,761 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 16,558 ราย และผู้ป่วยที่รักษาหายมียอดสะสมจำนวน 102,429 ราย