นาย วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนโดยระบุตอนหนึ่งว่าจะพิจารณาปิดโรงแรมในกรุงเทพมหานคร และโรงแรมในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันไมเนอร์มีโรงแรมในเครือทั้งหมด 19 แห่ง ภายใต้ชื่อแบรนด์ อวานี และ อนันตรา ซึ่งอยู่ในกรุงเทพฯ 6 แห่ง เกาะสมุย 3 แห่ง ภูเก็ต 2 แห่ง ขอนแก่น 1 แห่ง กระบี่ 2 แห่ง เชียงราย 1 แห่ง เชียงใหม่ 1 แห่ง พัทยา 1 แห่งและหัวหิน 2 แห่ง สำหรับการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ถือว่าเป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลกครั้งรุนแรงที่สุด เพราะปัจจุบันมีจำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นในประเทศ และจากแนวโน้มในต่างประเทศ โดยเวลานี้อยู่ในช่วงสำคัญที่จะต้องพยายามไม่ให้สถานการณ์ถดถอยลงไปมากกว่านี้แม้จะมาตรการเข้มงวดจากทางภาครัฐ แต่ยังมีประชาชนในประเทศที่ยังไม่เข้าใจถึงความร้ายแรงของสถานการณ์นี้ และมิได้ปฏิบัติตัวที่จะช่วยบรรเทาวิกฤตการณ์ครั้งนี้อย่างจริงจังเท่าที่ควร ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศได้มากขึ้น ดังนั้นไมเนอร์ กรุ๊ปจึงให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับมาตรการเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ทางรัฐบาลจะกำหนดเพื่อให้แน่ใจว่าประเทศไทยจะยุติการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และจะกลับมาเป็นสังคมและเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง โดยสนับสนุนประกาศของรัฐบาลอย่างชัดเจนที่จะให้คนไทยอยู่ที่บ้านและจำกัดการเดินทางเพื่อประโยชน์ของประเทศ รวมถึงมาตรการอื่นใดที่ทางรัฐบาลจะดำเนินการ ประเทศอื่นๆ ได้ดำเนินการห้ามมิให้มีการรวมตัวกันมากกว่า 20 หรือ 30 คน ซึ่งในส่วนของกลุ่มบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เชื่อว่ายังมีความเสี่ยงสูงต่อลูกค้าของทางโรงแรม พนักงาน และสาธารณชน แม้ว่าจะได้ดำเนินการตามมาตรการของทางรัฐบาลและกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเชิ้อโควิด-19 สามารถติดต่อได้ง่ายและยังไม่มีระบบการตรวจสอบการติดต่อเชื้อที่เพียงพอในปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อยุติการแพร่กระจายของเชื้อ จึงกำลังพิจารณาปิดโรงแรมในกรุงเทพมหานคร และในมาตรการเดียวกันนี้ จะนำไปพิจารณากับโรงแรมของครือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ ในไทย โดยมีมาตรการที่เข้มงวดให้พนักงานอยู่ที่บ้านและจำกัดการเดินทาง รวมถึงขอความร่วมมือการจำกัดการทำกิจกรรมนอกบ้าน โดยเชื่อว่ามาตรการที่เข้มแข็งในระยะเวลาช่วงสั้นๆ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์นี้ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาการจ้างงานและผลกระทบต่างๆ ในวงกว้าง แม้จะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในช่วงระยะเวลาอันสั้นต่อธุรกิจโรงแรม แต่เวลานี้ทางภาคเอกชนอื่นๆ ต่างก็ให้การสนับสนุนและมีมาตรการที่คล้ายคลึงกัน และเต็มใจที่จะยอมรับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจในช่วงระยะเวลาอันสั้นเพื่อที่จะฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์นี้ได้ดีที่สุดเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และเพื่อรักษาความอยู่รอดของพนักงานทั้งด้านกายและใจ และทางไมเนอร์ กรุ๊ปกำลังดำเนินการเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของพนักงานที่มีมากกว่า 37,000 คน ในประเทศไทยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลาย