เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ ( 23 มี.ค. 63) ที่ห้องประชุมยรรยง เทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์โรคโควิค 19 พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา และ นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา หลังจากนั้น ก็ได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดในจังหวัดยะลา มีผู้ติดเชื้อแล้ว 17 ราย นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยะลา 27 ราย รอเฝ้าดูอาการอีกจำนวน 239 ราย ซึ่งสถานการณ์ในพื้นที่ยะลาก็น่าเป็นห่วงอยู่ สำหรับมาตรการป้องกันขณะนี้ก็มีการสั่งปิดด่านทางด้านชายแดนเบตง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อป้องกันผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน สำหรับผู้ติดเชื่อส่วนใหญ่ที่พบก็มาจากการเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย “ สำหรับมาตรการป้องกันที่ดีที่สุดในขณะนี้ก็คือ ขอให้ประชาชนเคลื่อนไหวน้อยที่สุด และขอความร่วมมือประชาชน องค์กรต่างๆ ยกเลิกกิจกรรมในการชุมนุมไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดดังกล่าว ส่วนในเรื่องข่าวสารต่างๆ ทางจังหวัดก็จะมอบให้ทางประชาสัมพันธ์จังหวัดไปจัดทำเพจ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงข่าวสารที่ถูกต้อง และทางจังหวัดก็จะมีการประชุมประเมินสถานการณ์ทุกวัน” ผวจ.ยะลา กล่าว. นายพงศ์ศักดิ์ ยิ่งชมน์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่า สำหรับในส่วนของเทศบาลนครยะลา ก็ได้จัดหาเครื่องเทอร์โมสแกน และได้ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกน แล้วที่ บริเวณสถานีรถไฟยะลา เพื่อคัดกรองบุคคลที่เดินทางมาด้วยรถไฟเข้าเมืองยะลา ป้องกันโควิด-19 โดยเครื่องดังกล่าวจะจับอุณหภูมิร่างกายที่สูง ในกรณีที่มีอุณหภูมิสูง ก็จะมีเสียงเตือน พร้อมทั้งบันทึกภาพบุคคลนั้นไว้เป็นข้อมูล มีการเตรียมเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟ รวมทั้งจะติดตั้งเพื่อคัดกรองผู้โดยสารทางรถยนต์เข้า-ออกเมืองยะลา ทุกจุดเส้นทางที่เข้าเมืองยะลาอีกด้วย ในส่วนของสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าในตลาดหรือย่านชุมชนทางเทศบาลก็จะได้จัดอ่างน้ำพร้อมสบู่ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ล้างมือไปก่อน เนื่องจากขณะนี้ เจล ล้างมือยังขาดแคลนอยู่ ด้าน นายแพทย์สงกรานต์ ไหมชุม นพ.สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิท-19 ถือว่ายังน่าเป็นห่วงอยู่ เพราะทราบว่าภายในสิ้นเดือนนี้ ก็จะมีประชาชนเดินทางเข้าในพื้นที่อีกจำนวน ทั้งคนไทยด้วยกันเองที่เดินทางมาจาก กรุงเทพฯ และประชาชนที่เดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งแต่เดิมมียอดผู้ป่วยเพียง 3 – 4 ราย แต่วันนี้พุ่งไปถึง 17 ราย และรอดูอาการที่บ้านอีกกว่า 200 ราย ส่วนผู้ป่วยที่ต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด แยกตามอำเภอได้ดังนี้ ในเขตเมืองยะลา มีผู้ป่วย 19 ราย อ. บันนังสตา 10 ราย อ.ธารโต 1 ราย อ.ยะหา 2 ราย อ.รามัน 7 ราย อ.กาบัง 3 ราย รวมทั้งหมด 42 ราย