ผู้ว่าฯตราด ประกาศปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ห้ามคนเข้าออก แต่ยังให้รถยนต์บรรทุกสินค้าจากกัมพูชาพร้อมคนขับ 1 คนเข้ามาจ.ตราด
จากการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจ.ตราด ที่มีว่าที่ร้อยตรีพิเชียน ลิมป์หวังอยู่ ผู้ว่าราชการจ.ตราด เป็นประธาน ได้มีการประชุมหารือด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน แม้จ.ตราดจะยังไม่มีผู้ติดเชื้อก็ตาม
หลังจากประชุมแล้ว ผู้ว่าราชการจ.ตราด ได้ออกประกาศจ.ตราด ฉบับที่ 581/2563 เรื่องการระงับการเดินเข้าออกของบุคคลและยานพาหนะ และสิ่งของ ที่จุดผ่านแดนถาวร,จุดผ่อนปรนการค้า,และช่องทางอื่นๆตลอดแนวชายแดนจ.ตราดเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า หลังจากทีทจ.ตราดได้ออกคำสั่งจ.ตราดที่580/2563 ให้ระงับการเดินทางเข้าออกของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น อาศัยอำนาจตามพรบ.โรคติดต่อ 2558 และมติของคณะกรรมการโรคติดต่อเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 จ.ตราดจึงขอประกาศ ระงับการเดินเข้าออกของบุคคลยกเว้น คนประจำยานพาหนะขนส่งสินค้าสัญชาติไทยและสัญชาติกัมพูชา คันละ 1 คน ให้สามารถขนส่งสินค้าเข้าออกได้ แต่จะต้องได้รับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเข้มงวดจากพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมประจำด่าน ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กตรงข้ามบ้านจามเยี่ยม อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกงเป็นการชั่วคราว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 จนกว่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติ
ส่วนบรรยากาศที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยาการไม่คึกคักนัก มีเพียงรถบรรทุกสินค้าไม่กี่คันเดินทางเข้าออกเพื่อขนส่งสินค้าไปมาเท่านั้น จากเดิมท่ีมีประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาเดินทางไปมากว่า 1,500 คน/วัน และรถบรรทุกมากกว่า 100 เที่ยง/วัน กลับลดลงกว่าครึ่ง ทำให้ร้านค้าขายที่เป็นของชาวกัมพูชาปิดลง และอีกหลายร้านที่เป็นของชาวตราด ที่แม้ยังเปิดอยู่แต่มีผู้มาซื้อจำนวนไม่มาก
ทางด้านชาวตราดหลายคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อหลบการแพร่เชื้อโรคโควิด19 เมื่อถึงด่านบ้านท่าจอด ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ไม่มีการการตรวจเชื้อโรคโควิด19 แต่ประการใด จึงได้โทรศัพท์ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจ.ตราดตั้งหน่วยคัดกรองที่เข้มงวดในการตรวจเชื้อโรค เพราะขณะนี้ มีทั้งนักท่องเทีทยวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าออกจำนวนมาก แต่ไม่มีการตรวจ ซึ่งมีความเสี่ยงมากทีทจ.ตราดจะมีผู้ติดเชื้อโรค เพราะนักท่องเทีทยวทีทเดอนทางมา จะมีหลักประกันอะไรว่าเขาจะไม่ป่วยหรือเป็นตัวแพร่เชื้อ ซึ่งหากผู้ว่าราชการจ.ตราดไม่กล้าที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ก็คือ ลาออกไปดีกว่ามเพราะนี่เป็นการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้เกิดความเสี่ยงกับพี่น้องประชาชนชาวตราดมาก
หลังจากประชุมแล้ว ผู้ว่าราชการจ.ตราด ได้ออกประกาศจ.ตราด ฉบับที่ 581/2563 เรื่องการระงับการเดินเข้าออกของบุคคลและยานพาหนะ และสิ่งของ ที่จุดผ่านแดนถาวร,จุดผ่อนปรนการค้า,และช่องทางอื่นๆตลอดแนวชายแดนจ.ตราดเป็นการชั่วคราว โดยระบุว่า หลังจากทีทจ.ตราดได้ออกคำสั่งจ.ตราดที่580/2563 ให้ระงับการเดินทางเข้าออกของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมานั้น อาศัยอำนาจตามพรบ.โรคติดต่อ 2558 และมติของคณะกรรมการโรคติดต่อเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2563 จ.ตราดจึงขอประกาศ ระงับการเดินเข้าออกของบุคคลยกเว้น คนประจำยานพาหนะขนส่งสินค้าสัญชาติไทยและสัญชาติกัมพูชา คันละ 1 คน ให้สามารถขนส่งสินค้าเข้าออกได้ แต่จะต้องได้รับการตรวจคัดกรองโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเข้มงวดจากพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมประจำด่าน ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็กตรงข้ามบ้านจามเยี่ยม อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกงเป็นการชั่วคราว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2563 จนกว่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติ
ส่วนบรรยากาศที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด บรรยาการไม่คึกคักนัก มีเพียงรถบรรทุกสินค้าไม่กี่คันเดินทางเข้าออกเพื่อขนส่งสินค้าไปมาเท่านั้น จากเดิมท่ีมีประชาชนทั้งชาวไทยและกัมพูชาเดินทางไปมากว่า 1,500 คน/วัน และรถบรรทุกมากกว่า 100 เที่ยง/วัน กลับลดลงกว่าครึ่ง ทำให้ร้านค้าขายที่เป็นของชาวกัมพูชาปิดลง และอีกหลายร้านที่เป็นของชาวตราด ที่แม้ยังเปิดอยู่แต่มีผู้มาซื้อจำนวนไม่มาก
ทางด้านชาวตราดหลายคนที่เดินทางมาจากกรุงเทพเพื่อหลบการแพร่เชื้อโรคโควิด19 เมื่อถึงด่านบ้านท่าจอด ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด ไม่มีการการตรวจเชื้อโรคโควิด19 แต่ประการใด จึงได้โทรศัพท์ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเรียกร้องให้ทางผู้ว่าราชการจ.ตราดตั้งหน่วยคัดกรองที่เข้มงวดในการตรวจเชื้อโรค เพราะขณะนี้ มีทั้งนักท่องเทีทยวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าออกจำนวนมาก แต่ไม่มีการตรวจ ซึ่งมีความเสี่ยงมากทีทจ.ตราดจะมีผู้ติดเชื้อโรค เพราะนักท่องเทีทยวทีทเดอนทางมา จะมีหลักประกันอะไรว่าเขาจะไม่ป่วยหรือเป็นตัวแพร่เชื้อ ซึ่งหากผู้ว่าราชการจ.ตราดไม่กล้าที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ก็คือ ลาออกไปดีกว่ามเพราะนี่เป็นการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ และทำให้เกิดความเสี่ยงกับพี่น้องประชาชนชาวตราดมาก