เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มี.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม เมื่อเริ่มประชุม นายสิระ พยายามเข้ามานั่งใกล้ๆกับที่นั่งของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ห่างกันประมาณ 2-3 เก้าอี้ โดยถอดหน้ากากอนามัยพูดว่า ขอให้ยกเลิกการประชุมกมธ.ในวันนี้ เนื่องจาก ไม่รู้ว่ามีใครได้รับเชื้อโควิด-19 มาร่วมประชุมด้วยหรือไม่ แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์สวนกลับไล่ให้นายสิระไปนั่งในที่นั่งตัวเอง ตามป้ายชื่อที่อยู่บริเวณกลางห้องประชุม ทำให้เกิดการโต้เถียงไปมากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ โดยนายสิระยืนยันขอยกเลิกการประชุมกมธ. เพราะหากมีใครติดเชื้อขึ้นมา ประธานกมธ.ต้องรับผิดชอบ ในฐานะเป็นผู้เชิญมาประชุม ตนเพิ่งไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 มา ยังไม่รู้จะติดเชื้อหรือไม่ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไม่สนใจฟัง ไล่ให้นายสิระกลับไปนั่งที่นั่งตัวเอง นายสิระจึงย้อนถามว่า ทำผิดข้อบังคับตรงไหน แต่ก็ยอมเดินกลับไปที่นั่งของตัวเองตามป้ายชื่อ ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ชี้แจงว่า นายสิระพยายามพูดแทรกขณะที่การประชุมกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งนายสิระโต้ว่า หากในห้องประชุมมีใครติดเชื้อ ประธานต้องรับผิดชอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึง กล่าวสวนว่า ถ้านายสิระเข้าประชุมด้วยก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน จากนั้นนายสิระขอใช้สิทธิลาประชุม และเดินออกจากห้องประชุม จากนั้นที่ประชุมหยิบยกประเด็นสถานการณ์การกักตุนหน้ากากอนามัย จนขาดตลาดมาหารือ โดยที่ประชุมมีมติรับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบ และมอบให้คณะอนุกรรมาธิการชุดที่ 2 ที่มีนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธาน ทำหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในวันที่ 19 มี.ค. เวลา 13.30 น. คณะอนุกรรมาธิ การชุดที่ 2 ที่ตนเป็นประธานได้เชิญนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม มาให้ข้อมูลต่ออนุกมธ. ภายหลังจากที่นายอัจฉริยะยื่นหลักฐานต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ให้ดำเนินการตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกักตุน และเกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกหน้ากากอนามัยจำนวนมาก ดังนั้นคณะอนุกมธ.จึงต้องการสอบถามข้อมูลจากนายอัจฉริยะ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสอบสวน จากนั้นในวันที่ 25 มี.ค. จะเชิญอธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมศุลกากร และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มาสอบถามข้อมูลเรื่องหน้ากากอนามัย และการตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องการกักตุนหน้ากากอนามัย