“นายกฯ”ลุยถกศูนย์โควิด-19 ลั่นพร้อมพาปท.ฝ่าวิกฤติ พร้อมตั้ง6ทีมลุยงานสางวิกฤติเชื้อมรณะ ยันไทยยังไม่เข้าระยะ3 “พุทธิพงษ์” เผยนายกฯสั่งก.คลังหามาตรการเยียวยา “คนทำอาชีพอิสระ-ลูกจ้างรายวัน” ส่วน“สธ.” เผยยอดผู้ป่วยเพิ่ม 33ราย รวม 147ราย “บุรีรัมย์”ประกาศปิดเมือง-คัดกรองคนเข้าจังหวัดทุกช่องทาง-ยกเลิกทุกกิจกรรม ด้าน“ผู้การฯ”สั่งปิด“กองสืบ3”นครบาล พร้อมกักตัว 51 นายตำรวจ หลัง“รองสารวัตร”ติดเชื้อ “กองทัพบก”ยัน“เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก” ติดโควิด-19 สั่ง36นายทหาร กักตัว รวม 1ใน5เสือทบ. ส่วน“ลิเดีย”ติด เชื้อ-ลูกรอด “ยุโรป” ยังอ่วม “โควิด-19” อาละวาดหนักดับพุ่งทุบสถิติวันเดียวตายกว่าครึ่งพัน ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 มี.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว. กลาโหม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) โดยกล่าวว่า จะมีการแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยในเวลา 18.00 น.วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เช้านี้ก่อนเข้าประชุมศูนย์บริหารโควิด-19 ได้มีการหา รือรับฟังข้อมูล และแลกเปลี่ยนแนวคิดกับคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันต่างๆ ทำให้ผมเชื่อว่าทุกคน ทุกส่วนมีความตั้งใจและเต็มใจที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ และพร้อมที่จะร่วมมือกันนำพาประเทศไทยของเราให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ ผมขอให้ประชาชนคนไทยทุกคน ติดตามข้อมูลข่าวสาร ความคืบหน้า และมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และ ขอความร่วมมือ เพิ่มความระมัดระวัง มีความตระหนัก อย่าตื่นตระหนก เพื่อเราจะผ่านวิกฤติโรคอุบัติใหม่นี้ไปให้ได้ครับ” ต่อมา เวลา 15.45 น. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในฐานะโฆษกศูนย์ฯ แถลงว่า วันนี้มีการประชุมศูนย์ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นศูนย์ระดับชาติ มีอำนาจเหนือทุกกระทรวง โดยใช้เวลา ประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง โดยคณะกรรมการได้เห็นชอบและมีมติให้จัดตั้งทีมทำงาน 6 ด้าน และมีรายละเอียดแตกต่างกัน และในแต่ละด้านจะมีหน้าที่รายงานสถานการณ์ ความพร้อม อุปสรรค์ในการรับมือ ซึ่งจะนำเสนอที่ประชุมครม.ในวันที่ 17 มี.ค.และส่วนหนึ่งมีผลบังคับใช้ได้เลย นอกจากนี้ ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่า แม้จะมีการเตือนโรคโควิด-19และมีการแบ่งออกเป็น 3 ระยะ แต่ในที่ประชุม ยืนยันว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในระยะ 2 ยังไม่เข้าระยะ 3 หากจะเข้าระยะ 3 ก็ต่อเมื่อมีประชาชน ติดต่อเชื้อกันเองโดยไม่รู้สาเหตุ ว่ามาจากไหนและมีความรุนแรง โดยมีการติดต่อแพร่เชื้อเป็นจำนวนมาก และมีปรากฏหลากหลายพื้นที่ จึงจะต้องมีวิธีปฏิบัติ ทั้งนี้ คณะกรรมการได้มีการเตรียมการ เพื่อไม่ให้มองว่ารัฐไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ แต่ทั้งนี้ได้มีการเตรียมการไว้ 6 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านโรงพยาบาล เตียง ที่รับคนไข้ ขอความร่วมมือ โรงพยาบาลรัฐ เอกชน หรือท้องถิ่น มหา วิทยาลัย ทหาร ตำรวจ เพื่อให้ใช้รับคนป่วยได้เพียงพอ2.ด้านบุคลากร หมอ บุคลากรทางการแพทย์ แพทย์อาชีพ ภาครัฐ เอกชน แพทย์ที่เกษียณไปแล้ว ที่มีความรู้ด้านการแพทย์ จะต้องขอความร่วมมือ 3.ด้านเวชภัณฑ์ ยา เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดการอยู่ขณะนี้ และกระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งกำลังการผลิตขึ้น วันละ 2 ล้านชิ้นแล้ว และได้รับการแจ้งจากหลายประเทศเข้ามา ในเวลาที่ผ่านมาได้มีการตรวจจับสั่งซื้อหรือขายหน้า กากอนามัยและยึดมาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งกรมสรรพกร ให้ส่งกลับมายังศูนย์โควิด-19 และแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์ จึงในส่วนของเวชภัณฑ์ไม่น่าจะเป็นปัญหา4.ด้านอนุมัติค่าตอบแทนพิเศษให้บุคลากรทางการแพทย์ในสถานการณ์โควิด-19 ,5.ด้านการต่างประเทศ ซึ่งมีหลายประเทศติดต่อมาให้ความช่วยเหลือด้านเวชภัณฑ์เข้ามา ส่วนที่เราจะรับจากต่างประเทศก็ส่วนหนึ่ง แต่เราจะผลิตเองเพิ่มขึ้นเช่นกัน ยกเลิกฟรีวีซ่าไม่มีประเทศใดขัดข้อง พูดถึงคนไทยที่อยู่ต่างประเทศกว่า 1 แสนคน จัดตั้งทีมไทยแลนด์ขึ้นในแต่ละประเทศ เพื่อรับเรื่องข้อมูลจากคนที่อยู่ในประเทศนั้นๆ 6.ป้องกัน เรายังไม่ประกาศระยะ 3 แต่อยู่ในการเตรียมรับสถานการณ์ ขณะที่ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า วันนี้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 33 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1.กลุ่มผู้ป่วยสัมผัสเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยที่ยืนยันก่อนหน้านี้ คือกลุ่มมีอาการป่วย ที่อยู่ใกล้ชิดกับคน เช่น ในสนามมวย สถานบันเทิง 2.เป็นผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 17 คน โดยส่วนหนึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ อีกส่วนหนึ่งทำงานใกล้ชิดคนต่างชาติ สรุปผู้ป่วยสะสม 147 ราย ส่วน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแนวทางการเยียวยาให้ครบถ้วน นอกเหนือจากเดิมที่ได้จัดเตรียมมาตรการ สำหรับการช่วยเหลือธุรกิจการท่องเที่ยวและเรื่องอื่นๆ โดยจะให้มีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบอาชีพอิสระ และผู้ทำงานรับจ้างที่ได้รับค่าตอบแทนรายวัน ซึ่งคนส่วนนี้จะได้รับผลกระทบหากสถานประกอบการใดต้องปิดพักการทำงานในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ส่วน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า จะประสานให้กรมการศาสนาประสานไปยังวัดทุกวัด เพื่องดจัดกิจกรรมสงกรานต์เช่น ก่อกองทราย สรงน้ำพระ แต่ยังมีกิจกรรมทางศาสนาตามปกติ เพื่อป้องกันการแพร่ ระบาด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ประสานกับร้านกาแฟอเมซอน ภายในสถานีบริการน้ำมันของปตท.ทั่วประเทศ ให้เป็นช่องทางจำหน่ายหน้ากากอนามัย เพื่อให้ถึงมือประชาชนมากขึ้น ว่า ร้านกาแฟอเมซอนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และจะเริ่มจำหน่ายหน้ากากอนามัยได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนเรื่องเจลล้างมือทางปตท.ทำเจลล้างมือ 1 ล้านหลอดกระจายไปยังปั๊มปตท. เริ่มในกรุงเทพฯและปริมณ ฑล ก่อนจะกระจายไปยังพื้นที่รอบนอก ขณะที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดโพสต์คำแถลงของ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า“แถลงการณ์ชาวบุรีรัมย์ GU สู้ COVID ปิดเมือง เพื่อความปลอดภัย หยุดกิจกรรม เพื่อป้องกันการระบาด คนป่วย แยกรักษา เจ็บแต่จบ บ้าน GU ต้องปลอดภัย ใครไม่ทำ GU ทำ บุรีรัมย์ สู้ !!!!!”นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ ยังระบุอีกว่า จากปัญหาความรุนแรงของการระบาดเชื้อโควิด-19 จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศมาตรการปิดเมืองด้วยมาตรการสาธารณสุข คัดกรองคนที่จะเข้า จ.บุรีรัมย์ทุกคน ทั้งสนามบิน สถานีรถไฟที่พัก รวมถึงมีระบบติดตามเฝ้าระวังผู้เข้ามาเป็นเวลา 14 วัน อีกทั้งยังสั่งปิดกิจกรรมทุกอย่าง ส่วน ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.สันติ ชัยนิ รามัย ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทราบว่ามีผู้ใต้บังคับบัญชา ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งอยู่ในส่วนของ กก. สส.3 บก.สส.บช.น. โดยเบื้องต้น ได้สั่งให้ปิดที่ทำการ เฉพาะ กก.สส.3 และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 ทั้งหมด 51 นาย กักตัวเองอยู่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน หากใครเริ่มมีอาการเข้าข่ายให้ไปตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐ ขณะที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. มอบหมายให้ พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก แถลงกรณีที่ พล.ต.ราชิต อรุณวงษ์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า อาการปัจจุบันดีขึ้นเหมือน ปกติ ไม่มีไข้ และไม่พบความผิดปกติทางปอด ส่วนครอบครัว ก็ไม่พบว่ามีการติดเชื้อ แต่จะต้องกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรฐาน ขณะผู้สัมผัสใกล้ชิด มีผู้อยู่ในเกณฑ์เสี่ยงสูงที่เป็น 1 ใน 5 เสือกองทัพบก ผู้บังคับบัญชาระดับสูงและข้าราชการผู้ร่วมปฏิบัติงาน จำนวน 36 นาย โดยได้สั่งการให้กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและครอบครัวผู้ที่มีความใกล้ชิด จำนวน 60 รายเช่น พลขับ โดย ผบ.ทบ.ได้ย้ำว่า ถ้าใครอยู่ในข่ายไปตรวจ แล้วไม่กักตัวเอง ถือว่าขัดคำสั่งจะมีความผิดทางวินัย ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการตรวจการติดเชื้อของ นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ว่า นายถาวรได้แจ้งว่า “ผลการตรวจออกมาแล้ว เมื่อกี้ผมปลอดภัยครับ” พร้อมระบุว่าจะกักตัวเอง 14 วัน ด้าน “ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีน”นักร้องชื่อดัง ซึ่งเป็นภรรยาของ “แมทธิว ดีน” ดารานักแสดงได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า ตรวจพบว่า ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ส่วนบุตรชายน้องดีแลน ผลเป็นลบ ขณะที่ เดมี่ บุตรสาว ไม่ได้ตรวจ เนื่องจากกลัวว่าจะไปรับเชื้อจากข้างนอก ซึ่งตอนนี้ลูกๆมีอาการปกติ ร่าเริง แต่ยังคงเฝ้าดูอาการต่อไป สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขได้แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่างๆ ของภูมิภาคยุโรป หลังจากมีรายงาน ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพียงวันเดียว มีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตสูงขึ้นที่สุด 508 ราย เป็นประเทศอิตาลี 368 ราย ทำให้มียอดรวม ของผู้ป่วยที่เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 1,809 ราย รองลงมา ได้แก่ ประเทศสเปน มีผู้ป่วยเสียชีวิต 97 ราย ทำให้มียอดรวม 288 ราย ประเทศฝรั่งเศส มีผู้ป่วยเสียชีวิต 29 ราย ส่งผลให้มียอดรวม 120 ราย และประเทศอังกฤษ มีผู้ป่วยเสียชีวิต 14 ราย ทำให้มียอดรวม 35 ราย ทั้งนี้ จากผลพวงข้างต้นก็ทำให้บรรดารัฐบาลของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรป ออกมาตรการห้ามประชาชนทำกิจกรรมต่างๆที่มีการชุมนุมกันของผู้คน และเฝ้าระวังด้านสารณสุขบริเวณด่านพรมแดนต่อประชาชนที่เดินทางเข้า-ออก ขณะเดียวกัน ทางด้านสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 หรือไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศสหรัฐฯ ยังคงน่าวิตกเช่นกัน โดยล่าสุดมหานครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก และนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ออกมาตรการมีคำสั่งปิดสถานบันเทิง เช่น บาร์เหล้า รวมถึงภัตตาคาร ร้านอาหารต่างๆ ด้วย เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว พร้อมกันนี้ ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ หรือซีดีซี ยังได้ออกคำแนะนำว่า ขอให้ยกเลิกการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น กีฬา เป็นต้น ซึ่งมีผู้คนไปรวมตัวกันมากกว่า 50 คน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้ลุกลาม โดยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีจำนวนสะสม 3,782 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิต 69 ราย ส่วนยอดสะสมของผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลกมี 169,610 ราย ผู้ป่วยที่เสียชีวิต 6,518 ราย และผู้ป่วยที่รักษาจนมีอาการหายดี 77,776 ราย