ม้ามอยู่ด้านหลัง (ข้างซ้าย) ของช่องท้อง ใต้กะบังลม,ซี่โครง คอยควบคุมปริมาณเลือดในร่างกายให้คงที่ ม้ามของเด็ก มีหน้าที่สร้างเม็ดเลือดแดง แต่ในผู้ใหญ่ มีหน้าที่ทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดสภาพแล้ว ภายในม้ามมีเส้นเลือดมากมาย ทำให้ม้ามมีสีแดง บางและเปราะมาก หากมีอุบัติเหตุมากระทบถูกม้ามจะแตกได้ และจะทำให้เลือดตกใน (เลือดออกในช่องท้อง) มาก ซึ่งอาจจะทำให้เสียเลือดมากจนถึงชีวิต หมอจีนหยาง เผยเซิน คณาเวชคลินิก ระบุม้ามตามศาสตร์แพทย์แผนจีนเป็นธาตุดิน กลัวความชื้นมากที่สุด หาก “ม้าม” เผาผลาญไม่ดีทำให้ม้ามชื้น มีไขมันสะสมที่ท้อง เกิดคอเลสเตอรอลสูงหรือไขมันไปพอกที่ตับ ทั้งนี้ คนที่เป็นม้ามชื้นที่มาพบแพทย์มีมาก แต่ไม่ค่อยรู้ตัว มีวิธีสังเกตง่ายๆ คือ มีอาการกัดลิ้นตัวเอง มีฝ้าสีขาวบนลิ้น และลิ้นใหญ่คับปาก หากมีอาการม้ามชื้นสะสม มีส่วนทำให้อ้วนขึ้นได้ง่าย เพราะระบบเผาผลาญบกพร่อง รวมทั้งเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหาร เช่น ชอบกินของหวาน ไอศกรีม ขนมเค้ก มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการม้ามชื้นได้ อาหารที่แนะนำให้คนเป็นม้ามชื้นรับประทานเป็นประจำคือ ลูกเดือยไม่ขัดสี (สีเหลือง) ที่คนไทยนิยมนำไปประกอบอาหาร ทั้งคาว หวาน และกระเพาะไก่ หรือจีเน่ยจิง รวมทั้งมีวิธีรักษาแบบ “ครอบแก้ว” คือจุดไฟเผาสำลีแอลลอฮอล์แล้วนำไปวนในกระบอกแก้วก่อนครอบ ซึ่งต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญรักษา เพราะรู้ตำแหน่งว่าควรจะครอบแก้วตรงไหน มีอยู่ 3 จุด ที่รักษาอาการม้ามชื้นคือ จุดจงหว่านอยู่บริเวณเหนือสะดือมา 5 นิ้ว ตรงกระเพาะอาหาร จุดจู๋ซานหลี่ อยู่บริเวณข้างหน้าแข้ง และจุดเฟิงหลง อยู่บริเวณท่อนขาส่วนล่าง หากสงสัยว่าตัวเองป่วยเป็นม้ามชื้นหรือไม่ ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.guashathai.com