ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “Yong Poovorawon” ระบุ “โควิด 19 กับการลดการระบาดในประเทศไทย การระบาดในประเทศไทย ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ทุกคนจะต้องช่วยกัน ลดการระบาดใหญ่ในประเทศไทยให้ช้าที่สุด ขณะนี้การระบาดใหญ่ เกิดขึ้นในประเทศทางยุโรป จะเห็นข้อมูลผู้ป่วยรายใหม่ รวมกันมากกว่าตอนที่มีผู้ป่วยรายใหม่ในจีนสูงสุดต่อวัน ในการเสวนาของสำนักงานวิจัยแห่งชาติ อาจารย์ทางสายสังคมและจิตวิทยา พูดได้ดีมาก ถึงผลกระทบทางสังคมและจิตใจ ในขณะนี้ไฟกำลังไหม้บ้านเรา เราคงไม่ไปสนใจว่า ไฟมาจากที่ไหน หรือใครเป็นคนจุด เราต้องช่วยกันดับไฟ ในบางครั้งเรามองดู บางคนแทนที่จะช่วยกันดับไฟ แต่กลับโยนเชื้อเพลิงเข้ากองไฟ ในบ้านเรา เราไม่ควรทำเช่นนั้น การว่ากันไปมา โทษผู้อื่น การว่าผู้อื่นแต่ไม่กระทำ ไม่สมควรที่จะทำ ควรเปลี่ยนเป็น วิธีการหาทาง แนะนำวิธี การจะดับไฟจะต้องอยู่ที่ทุกคนช่วยกัน ในสื่อสังคมที่เป็นการเติมเชื้อไฟเข้าไป ก็ไม่ควรกระทำ การลดการระบาดในประเทศไทย สิ่งที่สำคัญจะต้องไม่ให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่ ทุกคนจะต้องดูแลตนเอง ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เราได้ยินเสมอ กินร้อนช้อนกลางล้างมือ การกำหนดระยะห่างของบุคคล ที่ 2 เมตร ถ้าห่างไม่ได้ ก็ต้องป้องกันใส่หน้ากากอนามัยดูแลตนเอง ไม่ถูกต้องใบหน้า ไม่จำเป็นจะไม่มีการสัมผัสตัว วัฒนธรรมตะวันตกได้เปลี่ยนไป เราเห็นผู้นำต่างๆ ใช้วิธีการไหว้ ในการทักทาย จำเป็นต้องห่างจากสังคม หลีกเลี่ยงการเข้าสังคมคนหมู่มาก จะเห็นว่าการประชุมใหญ่ๆ มีการงด สถานที่ติดเชื้อในโรงพยาบาล โรงพยาบาลจะต้องมีมาตรการในการดูแลและควบคุมอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่กระจายในโรงพยาบาลให้ได้ ในการระบาดของโรค จะไปเกิดที่ใหม่ จะเกี่ยวข้องกับการเดินทาง ดังนั้น ในกรณีไม่จำเป็นควรงดการเดินทาง ในช่วงที่มีการระบาดของโรค ทุกคนจะต้องช่วยกันในการลดผู้ป่วยรายใหม่ให้ได้ หรือให้เกิดน้อยที่สุด ช้าที่สุดเพื่อ จะได้มีมาตรการในการดูแลรักษา รวมทั้งยาในการรักษา ที่จะเกิดขึ้นจากองค์ความรู้ และวัคซีนในการป้องกันเพื่อมาหยุดยั้งโรคในที่สุด"