“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่หวั่นไหว ใดๆ กับกระแสข่าวลือ การปฏิวัติรัฐประหาร ที่มีการปลุกกระแส กันในช่วงนี้
เพราะมองว่าเรื่องนึ้ “ไม่มีสาระ”
ด้วยความที่เคยเป็น ผบ.ทบ. และ เคยเป็น หัวหน้าคณะรัฐประหาร มาก่อน ย่อมรู้ดีว่า สถานการณ์ เช่นนี้ “มีกลิ่น” หรือไม่
กลิ่น ปฏิวัติ?!.....
หากสำรวจ สถานการณ์ทางการเมือง ยังไม่มีการส่งกลิ่นใดๆ หรือ ยังไม่มีเค้าลางใด
แม้จะว่ากันว่า พล.อ.ประยุทธ์ คะแนนนิยมลดลง รัฐบาล ขาลง และมีความขัดแย้งภายใน และเกิดวิกฤติศรัทธา ก็ตาม
ทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ในการควบคุมการแพร่ระบาดของรัฐบาล ทั้ง เรื่องหน้ากาก ไม่พอเพียง
และมาตรการกักตัว “ผีน้อย” แรงงานไทยผิดกม.จากเกาหลี และมีหลบหนี
การแก้ปัญหา ด้วยการแจกเงิน ที่ถูกโจมตี จน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องถอย ยกเลิกการแจกเงิน มาคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าแทน
จนพล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับว่า “งอมเต็มที ใจผมแย่ ลงไป ทุกวัน”
จนมาเกิดเหตุ คนใกล้ชิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ถูกโยงการกักตุนหน้ากากอนามัย ส่งขายต่างประเทศ ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของรัฐบาลอย่างแรง
เพราะถึงขั้นที่ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ บางส่วนที่เคยไม่โหวตไว้วางใจให้ ร.อ.ธรรมนัส ตอนศึกอภิปรายฯ มาเคลื่อนไหวหนัก กดดันให้ พรรคปชป.ถอนตัว ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล “ไม่พายเรือให้โจรนั่ง”
กดดันให้ นายกฯ ปรับ ร.อ.ธรรมนัส ออกจาก ครม.
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า “ก็ถอนไปสิ” เป็นเรื่องของเขา !
ประหนึ่ง ไม่แคร์ ไม่สนใจ พรรคประชาธิปัตย์ ที่สร้างปัญหาในรัฐบาลมาตลอด
แต่กลัวจะบานปลาย พล.อ.ประยุทธ์ เลยตัองรีบ กล่าวคำ ขอโทษ ที่พูดเร็วไปหน่อย
พร้อมโยนสื่อว่า ถามเร็ว ผมตอบเร็วไปหน่อย ต้องขอโทษด้วย
แต่ความเคลื่อนไหว ของ ส.ส. ประชาธิปัตย์ ที่สนิทสนมกับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ก็ยังไม่หยุดขู่จะลาออกจากพรรค
รวมถึงปัญหาในพรรคพลังประชารัฐ เมื่อ สิระ เจนจาคะ เรียกร้องให้ ร.อ.ธรรมนัส ลาออก
แต่ก็ต้องปะทะวาจากับ ไผ่ ลิกค์ ส.ส. พรรคเดียวกัน สาย ร.อ.ธรรมนัส ที่ออกมาปกป้อง
ร้อนถึง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. ต้องเคลียร์ใจบอกให้สิระ ใจเย็นๆ กินข้าวเยอะๆ
แต่ก็ดูท่าว่า จะไม่จบ เพราะสิระ ออกมาให้สัมภาษณ์ ยืนยันตามเดิม
จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์. สยบปัญหา ด้วยการ ขอสื่อ ลดการเสนอข่าวความขัดแย้ง ส่วนตนเอง ก็จะไม่พูดการเมือง
“ขอเอาบ้านเมือง ให้ได้ก่อน” นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหา ไวรัส CoViD-19 ให้ได้ก่อน
แม้ ร.อ.ธรรมนัส จะยืนกรานว่า คนใกล้ชิด ไม่เกี่ยวข้อง และอ้างว่าเป็น ภาพตัดต่อ และโยงขบวนการโจมตีรัฐบาล และจะเปิดโปงเบื้องหลัง ให้ได้ ก็ตาม
แต่สังคมเชื่อ ในคลิป ในข้อมูลต่างๆ ที่ เพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” นำมาเปิดเผย
และยิ่งถูกวิจารณ์ เมื่อ มีการฟ้องร้องเอาผิด กับ แอดมินเพจ แหม่มโพธิ์ดำ จนต้องประกาศสู้ตาย
จน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกมา ยืนยันว่า ยังเชื่อว่า เพจนี้ เป็น เพจน้ำดี และยืนยันจะสอบสวน คดีนี้ โดย “ไม่ว่าใคร หน้าไหน” จะเป็นคนในรัฐบาลหรือไม่ ยืนยัน จะไม่ปกป้อง
แต่ก็เป็นที่สังเกตุกันว่า บรรดา กองเชียร์ กองหนุน ของ พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มเหนื่อย ท้อ กับการเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์
แต่ทว่าทั้งหมดนึ้ ก็ไม่ได้เป็น เงื่อนไข ของการรัฐประหาร แม้ว่าก่อนหน้านี้ นิสิตนักศึกษา จะชุมนุมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก กันอย่างต่อเนื่อง ก็ตาม แม้จะมีการปล่อยข่าวลือว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เป็นที่ไว้วางใจ แล้ว และความสัมพันธ์ ที่ห่างเหินของพล.อ.ประยุทธ์ กับ “บิ๊กแดง” พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ในระหลังๆ นี้ด้วย
ประกอบกับการที่ พล.อ. อภิรัชต์ เก็บตัวเงียบ ไม่ออกข่าว ออกงาน หรือ ให้สัมภาษณ์ใดๆ มาตั้งแต่ ก่อนการยุบพรรคอนาคตใหม่ 21 ก.พ. 2563
หลังจากที่ จูงสุนัขทหาร Zebra มาเทียบกับ พวกชังชาติ ก่อนที่ต่อมา จะมี แฟลชม็อบ การชุมนุมของ นิสิตนักศึกษา ขับไล่รัฐบาล
ที่ พล.อ. อภิรัชต์ ก็ปิดปากเงียบ ไม่แสดงความคิดเห็น เพราะเกรงว่า จะเป็นการ ราดน้ำมัน ไปบนกองเพลิง
อันเป็นจังหวะที่ พล.อ. อภิรัชต์ เดินทางไปเยือน กองทัพบกสหรัฐอเมริกา อีกด้วย
แต่เมื่อกลับบ้าน เมื่อต้นมี.ค. พล.อ. อภิรัชต์ ก็ยังเก็บตัวเงียบ งดแสดงความเห็น ใดๆ
ปรากฏตัว ไปร่วมดูการซ้อมรบ ด้วยกระสุนจริง CALFEX ในการฝึก Cobra Gold 20 เมื่อ6 มีค.2563 ที่ สุโขทัย กับ “บิ๊กกบ” พล.อ. พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.สูงสุด และ ไมเคิล เดอซอมบรี่ เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย คนใหม่ เท่านั้น
แต่กระนั้น ถึง พล.อ. อภิรัชต์ จะลดบทบาทตัวเอง ท่ามกลางกระแสข่าวความห่างเหิน กับ พล.อ.ประยุทธ์. แต่ก็ยังไม่มีนัยสำคัญ ต่อกระแสข่าวรัฐประหาร ที่ถูกปลุกโดยฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
หาใช่ กระแสข่าว ที่เกิดขึ้นจาก ฝ่ายรัฐประหาร
อีกทั้ง พล.อ. อภิรัชต์ ก็ยังคง นายทหารสายตรง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่เช่นเดิม แม้จะมีกระแสข่าวเสี้ยม ให้หวาดระแวง กันมาตลอด ก็ตาม
โดยเฉพาะ การที่ พล.อ. อภิรัชต์ มีชื่อเป็น แคนดิเดท นายกรัฐมนตรี คนต่อไป
แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็รู้ดีว่า เวลาของ พล.อ. อภิรัชต์ ยังไม่มาถึง
อีกทั้ง ในเวลานี้ เงื่อนไข ของการรัฐประหาร ก็ยังไม่มี
แม้ในบางขณะ พล.อ. ประยุทธ์ อาจจะไม่มั่นใจ ในสิ่งที่อยู่ นอกเหนือการควบคุม บ้างก็ตามที
แต่ทว่ากลิ่นปฏิวัติ ก็ยังหาได้โชยออกมาไม่