วันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่บริเวณด้านหน้า สภ.เมืองศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ ของจังหวัดศรีสะเกษ ได้ของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ร่วม 10 คัน พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ช่วงนี้มีการขโมยรถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่อง ในเขตพื้นที่ อ.เมืองศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ วางแผน ติดตามจับกุมคนร้าย บูรณาการกำลังกัน จนกระทั่งวันที่ 10 มี.ค. 2563 เวลาประมาณหกทุ่มเศษ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ออกตรวจพื้นที่ที่มีการก่อเหตุลักทรัพย์ พบ นายบวรหรือนุ โสรส นั่งรถรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น MSX สีดำ และมีนายฉัตรชัย หรือชัย ทินลาด ขับรถ จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เทน่า สีน้ำเงินขาว ซึ่งเป็นรถที่มีลักษณะคล้ายกับรถที่คนร้ายได้ใช้ขับมาก่อเหตุลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ ก่อนหน้านี้ ใช้เท้าถีบให้รถจักรยานยนต์เคลื่อนที่ไปตามถนน เลียบคลองน้ำ ของชุมชนหนองตะมะ เจ้าหน้าที่ ตร.จึงได้แสดงตัว เรียกให้หยุดรถเพื่อที่จะขอทำการตรวจค้น เมื่อทั้งสองคนรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ทิ้งรถ MSX สีดำ และพากันขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เทน่า สีน้ำเงินขาว หลบหนีไปทางชุมชนโนนหนามแท่ง (หลังวิทยาลัยพละศึกษาฯ) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ติดตามไปจนสามารถ ควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้งสองคนเอาไว้ได้ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีดำ มาจากข้างร้านโรงเหล้าทำมือศรีสะเกษ อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้มาก่อเหตุลักทรัพย์รถรถจักรยานยนต์ ในพื้นที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ มาแล้วจำนวน 13 คัน รวมรถจักรยานยนต์ที่ได้ลักมาในครั้งนี้ด้วยรวมเป็นทั้งหมด 14 คัน ตนจึงได้สั่งการให้ขยายผลและสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด รวม 7 คนด้วยกัน คือนายฉัตรชัยหรือชัย ทินลาด อายุ 32 ปี นายบวร หรือ นุ อายุ 16 ปี นายสายชลหรืออ้วนหรือโก้ อายุ 19 ปี นายประวีร์หรือเหวย อายุ 20 ปี นายทวีศักดิ์หรืออึ่ง บุญเมือง อายุ 29 ปี นายสมลักษณ์หรือม่อนหรือโบ้ อายุ 18 ปี นายสราวุธหรือเต้ อายุ 20 ปี ซึ่งนายสมลักษณ์ และ นายสราวุธ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษ จับกุมในความผิด ตาม พรบ.ยาเสพติดฯ ไปก่อนหน้านี้พร้อมกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าจะนำรถที่ลักมาได้ไปขายให้กับนายทวีศักดิ์หรืออึ่ง โดยนายทวีศักดิ์จะรับซื้อรถจักรยานยนต์ราคาคันละ 2,000-3,000 บาท ซึ่งนายทวีศักดิ์จะจ่ายค่ารถจักรยานยนต์ให้เป็นยาบ้าจำนวน 20-50 เม็ด แล้วแต่ราคาที่ตกลงกัน และรถจักรยานยนต์อีกส่วนหนึ่งจะนำไปขายให้นายวัฒนชัยหรืออ๊อด ชาติมนตรี ที่ร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ของนายวัฒนชัย ที่ริมถนน 221 สายศรีสะเกษ -กันทรลักษ์ บ้านนาเจริญ ม.13 ต.สะพุง อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายวัฒนชัย จะรับซื้อคันละ 2,000 – 3,000 บาท แล้วแต่สภาพรถ บางคันก็จะเอาไปขายแถบชายแดน และซื้อยาบ้ามาเสพ พันตำรวจเอก เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้สืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายและติดตามว่ามีแก๊งใหญ่เกี่ยวข้องกับใคร ที่ไหน จะได้จัดการเด็ดขาด ต่อมามีเจ้าของรถจักรยานยนต์ ที่โดนลักไปมาติดต่อขอรับรถคืนหลายราย และมีนางนันทิภัทร สวาสดิพัฒน์ ประธานชุมชนหัวนา อดีตเจ้าของรถสมคิดอุบลฯ-ศรีสะเกษ ซึ่งจอดรถจักรยานยนต์ไว้หน้าบ้านมีคนมาขโมยหายไปหลายอาทิตย์ พร้อมด้วยนางรัชนี สายชนะ หัวหน้า อสม.ชุมชนตลาดนอก นำช่อดอกไม้มามอบเป็นกำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ ตร.ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้และทำให้ได้รถจักรยานยนต์กลับคืนมา ดร กัลยาณี ธรรมจารีย์/ศรีสะเกษ