เมื่อ คาร์ลตัน ฮอสพิทาลิตี้ สิงคโปร์ ได้ปักธงโรงแรมแห่งแรกในไทย ภายใต้ชื่อ โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท ซึ่งนอกจากจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคาร์ลตันกับวัฒนธรรมการต้อนรับแบบไทยได้อย่างลงตัวแล้ว ยังมีกลยุทธ์เด็ดที่ นายมาร์ค บุลเมอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท เชื่อมั่นว่า จะใช้ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวและกลุ่มนักธุรกิจได้เป็นอย่างดี ฝ่ายการตลาดทำงานตลอดเวลา โดย นายมาร์ค บุลเมอร์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท กล่าวว่า ภายในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ทั้งห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงที่มีเนื้อที่กว่า 1,200 ตารางเมตรทั้งห้องบอร์ดรูมที่เหมาะสำหรับการประชุมขนาดเล็กไปจนถึงงานเลี้ยงขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับแขกได้มากถึง 600 คน รวมถึงสระว่ายน้ำ พื้นที่เล่นสำหรับเด็ก ศูนย์ออกกำลังกาย สปา รวมถึงห้องอาหารวาห์ล็อก ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่เป็นตำนานของคาร์ลตัน และมีชื่อเสียงโด่งดังในสิงคโปร์มานานกว่า 30 ปีตอบโจทย์ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทั้งกลุ่มเว็ดดิ้ง และกลุ่มประชุมสัมมนาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเวลานี้แม้สถานการณ์โดยรวมจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ทางฝ่ายการตลาดของโรงแรม ยังคงทำงานอยู่ตลอดเวลาติดต่อลูกค้ากลุ่มไมซ์เข้ามาใช้เป็นสถานที่จัดประชุม และสัมมนา โดยเฉลี่ยจะเข้ามาใช้บริการอยู่ที่ 100-400 คน ประมาณ 3 วัน/ครั้ง ทั้งจัดงานแต่งงาน นำเสนอสินค้าใหม่ และการจัดอีเว้นท์ เป็นต้น โดยเฉพาะตลาดเว็ดดิ้ง ทางโรงแรมจะมีห้องอาหารที่ไว้รองรับตลาดกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะจีนที่ห้องอาหารวาล๊อค ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งอันเป็นตำนานของคาร์ลตัน ที่ตกแต่งสไตล์ฮ่องกง รองรับแขกได้ถึง 194 คน รวมห้องวีไอพีสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เหมาะทั้งประชุมทางธุรกิจหรือเลี้ยงสังสรรค์ทางสังคม เน้นไปที่ตลาดระยะใกล้-กลาง ทั้งนี้ นายมาร์ค กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าอัตราการเข้าพักในช่วงไตรมาสสุดท้ายประมาณ 70-80% โดยมาจากกลุ่มเว็ดดิ้ง และกลุ่มจัดประชุม จากประเทศเกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบของใหม่ และสถานที่ที่ใกล้กับแหล่งช็อปปิ้ง โดยสถานที่ตั้งของโรงแรมตอบโจทย์ในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าในช่วงนี้กลุ่มเป้าหมายหลัก อย่างประเทศแถบเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน และออสเตรเลีย และฝั่งยุโรป รวมทั้งกลุ่มตะวันอออกกลางจะเจอปัญหาโควิด-19 แต่เชื่อว่า ในช่วงสิ้นปีนักท่องเที่ยวดังกล่าวน่าจะเดินทางท่องเที่ยวกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในเวลานี้จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดระยะใกล้ และระยะกลางเป็นส่วนใหญ่ สำหรับ โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท เป็นการผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ของคาร์ลตันกับวัฒนธรรมการต้อนรับแบบไทยได้อย่างลงตัวที่สุด ซึ่งผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลิดไปกับความหรูหราระดับห้าดาวในราคาที่คุ้มค่า โดยเฉพาะที่ตั้งของโรงแรมอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศกและสถานีพร้อมพงษ์ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีห้องพักและห้องสวีตขนาดกว้างขวางรวม 338 ห้อง ไว้บริการ เริ่มตั้งแต่พื้นที่ 37 ตารางเมตร ไปจนถึง 129 ตารางเมตร ห้องพักทุกห้องถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่กล่าวมาแล้ว โรงแรมยังมีส่วนพื้นที่สำหรับการจัดงานที่บริเวณชั้น 8 และชั้น 9 มีห้องจัดเลี้ยงเอนกประสงค์จำนวน 10 ห้อง และห้องแกรนด์บอลล์รูมขนาดใหญ่ รองรับแขกได้มากถึง 600 คน ด้วยขนาดพื้นที่มากกว่า 1,200 ตารางเมตร จึงเหมาะทั้งสำหรับการจัดงานประชุมทางธุรกิจและงานเลี้ยงสังสรรค์ทางสังคม อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย อาทิ จอแอลอีดีที่มีความละเอียดสูงขนาด 220 นิ้ว คมชัดทุกตารางนิ้วทั้งเพื่อความบันเทิงและการนำเสนองาน บริการระบบภาพ-แสง-สี-เสียง ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งเองได้เพื่อให้เข้ากับภาพลักษณ์ขององค์กร ด้วยเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือกว่ามาตรฐานนี้ทำให้ผู้จัดงานมั่นใจว่าจะได้รับประสบการณ์การจัดงานแบบมืออาชีพและไม่ยุ่งยาก ด้วยเหตุนี้ นายมาร์ค ได้กล่าวว่า คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิทน่าจะได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับตลาดโรงแรมในภาพรวมเส้นสุขุมวิท ที่ท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีโรงแรมเปิดใหม่อยู่ตลอด แต่เนื่องจากฝ่ายการตลาดได้ใช้เวลาในการศึกษาถึงปัจจัยในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าคาร์ลตันสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ จึงน่าจะแข่งขันและมีอัตราการเข้าพักใกล้เคียงกับคู่แข่งในระดับเดียวกันได้