ผู้ประกอบการโรงแรมชื่อดังที่บุรีรัมย์ ยอมรับสถานการณ์โควิด 19 กระทบธุรกิจยาวนานร่วมเดือน ต้องประกาศปรับลดค่าห้องพักลงกว่าครึ่ง ทั้งลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานลงวันละ 2 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อความอยู่รอด ร้องขอให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางช่วยเหลือก่อนจะเกิดวิกฤตเสียหายมากกว่านี้
(11 มี.ค.63 ) นายวสันต์ เทพนคร ผู้ประกอบการโรงแรมเทพนคร และโรงแรมอัลวาเลซ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมายอมรับว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรงของตนซบเซาเงียบเหงาที่สุด ตั้งแต่แต่ทำธุรกิจโรงแรมมาหลายสิบปี หลังจากได้รับผลกระทบจากกระแสการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 มานานกว่า 1 เดือนแล้ว ปัจจุบันทางโรงแรมมีห้องพักไว้คอยบริการลูกค้ากว่า 400 ห้อง แต่มีลูกค้ามาใช้บริการเพียงวันละ 10 – 20 ห้อง เท่านั้น
ทางโรงแรมจึงต้องประกาศปรับค่าห้องพัก อาหาร เครื่องดื่มลงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เพื่อส่งเสริมการขาย จากปกติราคาค่าบริการห้องละ 1,000 – 1,200 บาท ลดเหลือ 450 – 500 บาท ส่วนห้องราคา 2,000 – 2,500 บาท ลดเหลือเพียงห้องละ 1,000 บาทเท่านั้น แต่ก็ยังไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเท่าที่ควร ซึ่งต่างจากในช่วงเดี่ยวกันของปีที่ผ่านมา ยังมีลูกค้ามาเข้าพักไม่มากก็สามารถดำเนินธุรกิจไปได้
อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมยังไม่มีนโยบายในการปรับลดพนักงาน แต่มีการปรับลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานลงวันละ 2 ชั่วโมง ทำให้พนักงานมีรายได้น้อยลงแต่ก็พอใจกว่าที่จะปรับลดพนักงาน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือระหว่างพนักกับทางโรงแรมให้ประคองตัวผ่านพ้นวิกฤต ที่เกิดจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 ไปได้
ขณะนี้ทางโรงแรมมีทุนสำรองไว้ใช้จ่ายในการบริหารจัดการเพียง 2 เดือน เท่านั้น หากสถานการณ์โรคดังกล่าวไม่คลี่คลาย ทางโรงแรมก็จะต้องพิจารณาปิดอาคารห้องพักของโรงแรมไปก่อน 1 หลัง จากที่มีอาคาร 2 หลัง ซึ่งจะกระทบทั้งพนักงานและโรงแรมอย่างแน่นอน
นายวสันต์ เทพนคร เจ้าของผู้ประกอบการโรงแรม จึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเข้ามาช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการ โดยการผ่อนคลายความเข้มงวดเป็นบางกรณี โดยเฉพาะการพิจารณายกเลิกการประชุมสัมมนา ขององค์กรเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งทางหน่วยงานราชการในพื้นที่ และทางโรงแรมสามารถช่วยกันคัดกรองกันเองได้ แต่ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ส่วนนี้จะเป็นรายได้ให้ทางโรงแรมนำไปบริหารจัดการพยุงธุรกิจตัวเองให้อยู่รอดได้
ส่วนกรณีอื่นก็ให้รัฐบาล หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้เร่งให้ความช่วยเหลือ เพื่อที่ ประชาชนนักท่องเที่ยวได้มั่นใจและคลายความกังวลลดความหวาดกลัวลง ให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และก่อนที่ธุรกิจโรงแรมจะทยอยปิดตัวลงจากสภาวะดังกล่าวด้วย
(11 มี.ค.63 ) นายวสันต์ เทพนคร ผู้ประกอบการโรงแรมเทพนคร และโรงแรมอัลวาเลซ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมายอมรับว่า ขณะนี้ธุรกิจโรงแรงของตนซบเซาเงียบเหงาที่สุด ตั้งแต่แต่ทำธุรกิจโรงแรมมาหลายสิบปี หลังจากได้รับผลกระทบจากกระแสการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 มานานกว่า 1 เดือนแล้ว ปัจจุบันทางโรงแรมมีห้องพักไว้คอยบริการลูกค้ากว่า 400 ห้อง แต่มีลูกค้ามาใช้บริการเพียงวันละ 10 – 20 ห้อง เท่านั้น
ทางโรงแรมจึงต้องประกาศปรับค่าห้องพัก อาหาร เครื่องดื่มลงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เพื่อส่งเสริมการขาย จากปกติราคาค่าบริการห้องละ 1,000 – 1,200 บาท ลดเหลือ 450 – 500 บาท ส่วนห้องราคา 2,000 – 2,500 บาท ลดเหลือเพียงห้องละ 1,000 บาทเท่านั้น แต่ก็ยังไม่มีลูกค้ามาใช้บริการเท่าที่ควร ซึ่งต่างจากในช่วงเดี่ยวกันของปีที่ผ่านมา ยังมีลูกค้ามาเข้าพักไม่มากก็สามารถดำเนินธุรกิจไปได้
อย่างไรก็ตาม ทางโรงแรมยังไม่มีนโยบายในการปรับลดพนักงาน แต่มีการปรับลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานลงวันละ 2 ชั่วโมง ทำให้พนักงานมีรายได้น้อยลงแต่ก็พอใจกว่าที่จะปรับลดพนักงาน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือระหว่างพนักกับทางโรงแรมให้ประคองตัวผ่านพ้นวิกฤต ที่เกิดจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด 19 ไปได้
ขณะนี้ทางโรงแรมมีทุนสำรองไว้ใช้จ่ายในการบริหารจัดการเพียง 2 เดือน เท่านั้น หากสถานการณ์โรคดังกล่าวไม่คลี่คลาย ทางโรงแรมก็จะต้องพิจารณาปิดอาคารห้องพักของโรงแรมไปก่อน 1 หลัง จากที่มีอาคาร 2 หลัง ซึ่งจะกระทบทั้งพนักงานและโรงแรมอย่างแน่นอน
นายวสันต์ เทพนคร เจ้าของผู้ประกอบการโรงแรม จึงได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเข้ามาช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการ โดยการผ่อนคลายความเข้มงวดเป็นบางกรณี โดยเฉพาะการพิจารณายกเลิกการประชุมสัมมนา ขององค์กรเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งทางหน่วยงานราชการในพื้นที่ และทางโรงแรมสามารถช่วยกันคัดกรองกันเองได้ แต่ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคอย่างเข้มงวด ส่วนนี้จะเป็นรายได้ให้ทางโรงแรมนำไปบริหารจัดการพยุงธุรกิจตัวเองให้อยู่รอดได้
ส่วนกรณีอื่นก็ให้รัฐบาล หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้เร่งให้ความช่วยเหลือ เพื่อที่ ประชาชนนักท่องเที่ยวได้มั่นใจและคลายความกังวลลดความหวาดกลัวลง ให้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และก่อนที่ธุรกิจโรงแรมจะทยอยปิดตัวลงจากสภาวะดังกล่าวด้วย