ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าสนับสนุนธุรกิจไทยให้ก้าวข้ามวิกฤติเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวช่วยใหม่หนุนลูกค้านำเข้า-ส่งออกให้ไปต่อได้แม้ต้องเผชิญความท้าทายปัจจุบัน ผนึกกำลัง 14 กลุ่มธนาคารชั้นนำของโลกร่วมก่อตั้ง “Trade Club Alliance” (TCA) พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ พร้อมเปิดตัว SCB Trade Club รองรับสมาชิกผู้ประกอบการธุรกิจไทย เป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกและแห่งเดียวเชื่อมต่อผู้ค้าไทยกับคู่ค้าธุรกิจรายใหม่กว่า 21,000 รายที่ได้รับการคัดเลือกจากธนาคารผู้ร่วมก่อตั้งครอบคลุมเขตเศรษฐกิจสำคัญจาก 51 ประเทศทั่วโลก เป็นเส้นทางลัดสู่โอกาสใหม่ๆในการบุกตลาดต่างประเทศอย่างไร้ข้อจำกัด ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อติดต่อลูกค้าต่างประเทศ สามารถ ติดต่อ เจรจา สั่งซื้อ ปิดการขาย ได้ทันทีบนแพลตฟอร์ม www.scbtrade.com ตอบโจทย์โลกการค้าในยุคดิจิทัลพร้อมก้าวสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน
นายวศิน ไสยวรรณ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wholesale ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเผยว่า ภาคธุรกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายและปัจจัยลบที่รุมเร้าจากรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง สงครามการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯและจีนที่ยังยืดเยื้อ การแข็งค่าของสกุลเงินบาท ปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ตลอดจนการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ลุกลามขยายวงกว้าง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการจ้างงาน กำลังซื้อของผู้บริโภค ตลอดจนบรรยากาศการค้าและการลงทุนในภาพรวม ซึ่งนับเป็นสถานการณ์ยากลำบากของผู้ประกอบการไทยที่จะรักษาการเติบโตของธุรกิจเช่นในภาวะปกติ
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะเพื่อนคู่คิดทางธุรกิจ (Strategic Partnership) จึงได้พยายามพัฒนาและหาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจสามารถใช้ศักยภาพที่มีเพิ่มยอดขายและสร้างการเติบโต สามารถรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ธนาคารจึงได้เปิดตัวบริการ SCB Trade Club แพลตฟอร์มเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศออนไลน์ ผ่าน www.scbtrade.com
“ได้ริเริ่มจากความร่วมมือระหว่าง 14 กลุ่มธนาคารชั้นนำของโลกที่ร่วมกันบุกเบิกแพลตฟอร์มดิจิทัล Trade Club Alliance (TCA) เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกของโลกที่เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้นำเข้าและผู้ส่งออกสินค้าในการเลือกหาคู่ค้า ศึกษาข้อมูลตลาดต่างประเทศ พร้อมทั้งจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าที่มีคุณภาพมากกว่า 21,000 รายใน 51 ประเทศทั่วโลกซึ่งได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจากกลุ่มธนาคารพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้ง”
ทั้งนี้สิ่งที่ธนาคารไทยพาณิชย์ยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอดคือการอยู่เคียงข้างและช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าให้สามารถเติบโตได้อย่างดีที่สุด และบทบาทของเราในวันนี้ต้องเป็นมากกว่าสถาบันการเงินที่สนับสนุนในเรื่องบริการและธุรกรรมทางการเงิน เราจะเข้าไปช่วยส่งเสริมธุรกิจของลูกค้าในจุดที่มองเห็นช่องทางและโอกาสในการต่อยอดให้กับธุรกิจของลูกค้าในมิติต่างๆ และด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านเทคโนโลยี การแข่งขันรูปแบบใหม่ๆ ตลอดจนปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นได้เสมอ
"เรามั่นใจว่า SCB Trade Club จะสามารถตอบโจทย์ให้กับธุรกิจไทยในยุคนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเครือข่ายธุรกิจที่หลากหลายและเชื่อถือได้จากทุกมุมโลกมารวมอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน สามารถศึกษาข้อมูลของคู่ค้า เจรจาตกลงธุรกิจ ทำธุรกรรมแบบ End to End บนแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีทั้งประสิทธิภาพและให้ประสิทธิผล สอดรับกับทิศทางการค้าโลกในยุคดิจิทัลที่จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจไทยขยายขอบเขตการค้าและเติบโตในตลาดโลกอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน"
โดยขณะนี้มีลูกค้าธุรกิจของธนาคารได้เข้าสู่แพลตฟอร์ม SCB Trade Club แล้วประมาณ 1,200 รายจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ ชิ้นส่วนรถยนต์ ยาง เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า พลาสติก เคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ แพ็กเกจจิ้ง อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าเกษตร สะท้อนถึงโอกาสทางธุรกิจจากทุกมุมโลกที่เปิดรอให้ผู้ประกอบการไทยคว้าไว้ ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกค้าธุรกิจของธนาคารบนแพลตฟอร์ม SCB Trade Club เพิ่มอีกจำนวน 5,000 รายภายในปี 2563
สำหรับ SCB Trade Club นับเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ค้าไทยสู่คู่ค้าธุรกิจรายใหม่ที่เชื่อถือได้จากทั่วโลก มีจุดเด่นคือไม่ใช่เป็นเพียงแต่เป็นศูนย์รวมของข้อมูลสำคัญเพื่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะ อาทิ Best Countries for Trade,Trade Shows,Customs Duties and Local Taxes, Sanctions lists และอีกกว่า 30 รายการ แต่ยังพร้อมด้วยบริการจับคู่ธุรกิจกับพันธมิตรทั่วโลก(Trade Club) เหมาะสำหรับผู้นำเข้าและผู้ส่งออกสินค้าที่ได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจากธนาคารผู้ก่อตั้ง
ทั้งนี้สามารถเลือกและจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าที่มีคุณภาพผ่านเครือข่าย Trade Club Alliance แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใด ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการหาตลาดใหม่ๆด้วยตนเอง และช่วยลดภาระการค้นหาข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆที่เดิมต้องใช้เวลานานนับเดือน ลูกค้าธุรกิจที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายธุรกิจระดับโลก SCB Trade Club สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ SCB Business Call Center 0 2722 2222
โดย SCB Trade Club เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะ อำนวยความสะดวกให้ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศสามารถค้นหาและเชื่อมโยงคู่ค้าใหม่ๆขยายช่องทางการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มได้รับการพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีระบบการเรียนรู้และจดจำรูปแบบการจับคู่คู่ค้าแบบอัจฉริยะ สร้างเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการ มีทั้งสาระสำคัญทางธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลก และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน
ทั้งนี้ก่อตั้งโดย 14 กลุ่มธนาคารชั้นนำประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB),Abu Dhabi Commercial Bank,Attijariwafa Bank,Banco BPM S.p.A.,CIMB,Crédit Agricole Group,Eurobank,Industrial Bank of Korea,KBC Group,MUFG,Nordea Bank,RBC Royal Bank,Santander และ Standard Bank มีเป้าหมายว่าภายในปี พ.ศ.2565(ค.ศ.2022) แพลตฟอร์มนี้จะสนับสนุนการทำธุรกิจให้แก่ผู้ค้ากว่า 1 ล้านบริษัททั่วโลก หรือครอบคลุมทั้งสิ้น 90% ของเส้นทางการค้าโลก
โดยธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะเพื่อนคู่คิดทางธุรกิจ (Strategic Partnership) จึงได้พยายามพัฒนาและหาเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจสามารถใช้ศักยภาพที่มีเพิ่มยอดขายและสร้างการเติบโต สามารถรับมือกับความท้าทายทั้งในปัจจุบันและที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างยั่งยืน ธนาคารจึงได้เปิดตัวบริการ SCB Trade Club แพลตฟอร์มเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศออนไลน์ ผ่าน www.scbtrade.com
“ได้ริเริ่มจากความร่วมมือระหว่าง 14 กลุ่มธนาคารชั้นนำของโลกที่ร่วมกันบุกเบิกแพลตฟอร์มดิจิทัล Trade Club Alliance (TCA) เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกของโลกที่เกิดขึ้นเพื่อสนับสนุนผู้นำเข้าและผู้ส่งออกสินค้าในการเลือกหาคู่ค้า ศึกษาข้อมูลตลาดต่างประเทศ พร้อมทั้งจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าที่มีคุณภาพมากกว่า 21,000 รายใน 51 ประเทศทั่วโลกซึ่งได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจากกลุ่มธนาคารพันธมิตรผู้ร่วมก่อตั้ง”
ทั้งนี้สิ่งที่ธนาคารไทยพาณิชย์ยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอดคือการอยู่เคียงข้างและช่วยสนับสนุนธุรกิจของลูกค้าให้สามารถเติบโตได้อย่างดีที่สุด และบทบาทของเราในวันนี้ต้องเป็นมากกว่าสถาบันการเงินที่สนับสนุนในเรื่องบริการและธุรกรรมทางการเงิน เราจะเข้าไปช่วยส่งเสริมธุรกิจของลูกค้าในจุดที่มองเห็นช่องทางและโอกาสในการต่อยอดให้กับธุรกิจของลูกค้าในมิติต่างๆ และด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งด้านเทคโนโลยี การแข่งขันรูปแบบใหม่ๆ ตลอดจนปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นได้เสมอ
"เรามั่นใจว่า SCB Trade Club จะสามารถตอบโจทย์ให้กับธุรกิจไทยในยุคนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเครือข่ายธุรกิจที่หลากหลายและเชื่อถือได้จากทุกมุมโลกมารวมอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน สามารถศึกษาข้อมูลของคู่ค้า เจรจาตกลงธุรกิจ ทำธุรกรรมแบบ End to End บนแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีทั้งประสิทธิภาพและให้ประสิทธิผล สอดรับกับทิศทางการค้าโลกในยุคดิจิทัลที่จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจไทยขยายขอบเขตการค้าและเติบโตในตลาดโลกอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน"
โดยขณะนี้มีลูกค้าธุรกิจของธนาคารได้เข้าสู่แพลตฟอร์ม SCB Trade Club แล้วประมาณ 1,200 รายจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ ชิ้นส่วนรถยนต์ ยาง เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า พลาสติก เคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ แพ็กเกจจิ้ง อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าเกษตร สะท้อนถึงโอกาสทางธุรกิจจากทุกมุมโลกที่เปิดรอให้ผู้ประกอบการไทยคว้าไว้ ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีลูกค้าธุรกิจของธนาคารบนแพลตฟอร์ม SCB Trade Club เพิ่มอีกจำนวน 5,000 รายภายในปี 2563
สำหรับ SCB Trade Club นับเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ค้าไทยสู่คู่ค้าธุรกิจรายใหม่ที่เชื่อถือได้จากทั่วโลก มีจุดเด่นคือไม่ใช่เป็นเพียงแต่เป็นศูนย์รวมของข้อมูลสำคัญเพื่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะ อาทิ Best Countries for Trade,Trade Shows,Customs Duties and Local Taxes, Sanctions lists และอีกกว่า 30 รายการ แต่ยังพร้อมด้วยบริการจับคู่ธุรกิจกับพันธมิตรทั่วโลก(Trade Club) เหมาะสำหรับผู้นำเข้าและผู้ส่งออกสินค้าที่ได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจากธนาคารผู้ก่อตั้ง
ทั้งนี้สามารถเลือกและจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าที่มีคุณภาพผ่านเครือข่าย Trade Club Alliance แบบไม่มีค่าใช้จ่ายใด ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการหาตลาดใหม่ๆด้วยตนเอง และช่วยลดภาระการค้นหาข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆที่เดิมต้องใช้เวลานานนับเดือน ลูกค้าธุรกิจที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเครือข่ายธุรกิจระดับโลก SCB Trade Club สามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ SCB Business Call Center 0 2722 2222
โดย SCB Trade Club เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะ อำนวยความสะดวกให้ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศสามารถค้นหาและเชื่อมโยงคู่ค้าใหม่ๆขยายช่องทางการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพลตฟอร์มได้รับการพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีระบบการเรียนรู้และจดจำรูปแบบการจับคู่คู่ค้าแบบอัจฉริยะ สร้างเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการ มีทั้งสาระสำคัญทางธุรกิจจากทั่วทุกมุมโลก และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน
ทั้งนี้ก่อตั้งโดย 14 กลุ่มธนาคารชั้นนำประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB),Abu Dhabi Commercial Bank,Attijariwafa Bank,Banco BPM S.p.A.,CIMB,Crédit Agricole Group,Eurobank,Industrial Bank of Korea,KBC Group,MUFG,Nordea Bank,RBC Royal Bank,Santander และ Standard Bank มีเป้าหมายว่าภายในปี พ.ศ.2565(ค.ศ.2022) แพลตฟอร์มนี้จะสนับสนุนการทำธุรกิจให้แก่ผู้ค้ากว่า 1 ล้านบริษัททั่วโลก หรือครอบคลุมทั้งสิ้น 90% ของเส้นทางการค้าโลก