“บิ๊กตู่” บ่นเหนื่อย! แต่ยังทนไหว ลั่นรัฐบาลไม่เล่นการเมืองในช่วงมีปัญหา ชี้“คนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่”ความคิดต่างทำขัดแย้งสูง บอกทำงานเพื่อประชาชน “ฝ่ายค้าน” เตรียมจัดหนัก“รัฐบาล” จ่อ “ซักฟอกนอกสภาฯ” เปิดเวทีสาธารณะ ด้าน“เทพไท” แนะแก้ระบบเลือกตั้งกลับไปใช้ตาม รธน. ปี 40 และ50 ขย่มก๊วนเคลื่อนไหวตั้งพรรคใหม่ “เอ๋-ปารี ณา” เข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีรุกป่าฯ วันนี้ ยันมีหลักฐานสู้คดี พร้อมให้การปฏิเสธ ที่กระทรวงพลังงาน เมื่อเวลา 12.35 น. วันที่ 9 มี.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2563 ว่า ตนพร้อมนำพาประเทศชาติ ให้ผ่านพ้นตรงนี้ไปให้ได้ ขอความร่วมมือจากพวกเรา ตนพยายามสร้างการรับรู้ใหม่ที่ถูกต้องเข้าไปด้วยหลักการของกฎหมาย ซึ่งตนยึดกฎหมายเป็นหลักในการทำงานไม่ใช่ว่าจะทำเรื่องการเมืองอย่างเดียว แม้จะเป็นรัฐบาลอย่างนี้ก็ตาม วันนี้ขอร้องทุกคนแล้วว่า จะไม่ทำงานเพื่อการเมือง และต้องชี้แจงให้ตรงจุด เวลาตนพูดกับข้าราชการ แล้วเข้าใจ แต่เวลาแถลงที่เป็นแบบราชการมากๆ ประชาชนก็ไม่เข้าใจ อย่างวันนี้ที่ประชาชนบอกหลายอย่างว่าดี นายกฯพูดดี แต่เวลาไปทำ ก็ทำไม่เป็น ตนไม่ได้ว่าเขา แต่เป็นความผิดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า มาตรการหลายอย่างรัฐบาลออกมาเยอะแล้ว แต่เข้าไม่ถึง เพราะการสื่อสาร รัฐบาลต้องรับผิดชอบตรงนี้ ซึ่งตนไม่โทษหน่วยงาน โดยจากนี้ทุกหน่วยงานและทุกกระทรวงต้องทำทั้งหมด ในเรื่องให้บริการประชาชนและการลดใช้เอกสาร ที่บางพื้นที่ยังใช้อยู่ มันเกิดอะไรขึ้น ตนกำลังไล่ดู ดังนั้นขอให้แจ้งมาที่ทำเนียบรัฐบาลได้เลย ถ้าตรงไหนยังไม่ดีจะได้เล่นงานได้ถูกต้อง ซึ่งตนต้องรับผิดชอบทั้ง 77 จังหวัด ขอเถอะ ขอให้ตนทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อะไรที่เป็นความขัดแย้งก็ขอให้เบาๆลงหน่อย เพราะจะทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นอีก มีอะไรก็บอกมาแล้วกัน ตนก็อ่านจากท่านนั้นแหละ และนำมาสู่การสั่งเป็นนโยบาย นายกฯทำงานในเชิงนโยบาย สั่งการ ตัดสินใจ ส่วนในรายละเอียด กระทรวง หน่วยงานจะต้องรับผิดชอบใครทุจริตตรงไหนฟ้องตรงนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “โอเคนะ สิ่งที่พูดไปใช้ได้นะ นายกฯ ตอบชัดเจนแล้ว เลิกว่าผมซะทีเถอะ เสาร์-อาทิตย์ ผมงอมเต็มที ใจผมก็แย่ไปทุกวัน” เมื่อถามว่า นายกฯเ หนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า "จะว่าเหนื่อย ก็คงเหนื่อย แต่ไม่มาก ยังทนไหว ไม่ใช่ทนหรอก คือมันต้องปลุกตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องทำ ถ้าไม่ทำแล้วจะทำอย่างไรกันต่อไป วันนี้อย่างน้อยในช่วงที่ตนยังอยู่ก็จะทำให้ดีที่สุด มากน้อยอยู่ที่ประชาชนจะเข้าใจผม หรือไม่เข้าใจ บางอย่างเกิดเร็วไม่ได้ เกิดเร็วก็ล้มทุกที ฉะนั้นถึงบอกว่าต้องเดินเป็นระยะและปรับเปลี่ยนไป โครงการไหนทำได้ก็ทำต่อ โครงการไหนทำไม่ได้ก็ยกเลิก เพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ ซึ่งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ความคิดก็ต่างกัน ฉะนั้นความขัดแย้งก็ค่อนข้างสูง แต่ต้องทำให้ได้ นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลและผมมีเจตนารมณ์อย่างนั้น ผมได้พูดกับครม.รองนายกฯและรัฐมนตรีทุกท่านว่า เราไม่ได้ทำการเมืองในขณะที่บ้านเมืองมีปัญหา เราต้องทำงานในนามของรัฐบาล เพื่อประชาชนทั้งประเทศ เป็นรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามรัฐธรรมนูญทุกประการ ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ในฐานะคณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน แถลงว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจะจัดเวทีซักฟอกนอกสภาฯ โดยเวทีที่ 1เป็นการแฉ กระบวนการไอโอ ฉีกหน้ากากขบวนการเพิ่มความขัดแย้ง ในวันที่ 12 มี.ค. ตั้งแต่เวลา 10.00-12.30 น.ที่โรงแรมแลงคาสเตอร์ โดยมีวิทยากรร่วมงาน อาทิ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย จะพูดถึงยุทธวิธีทางทหารในการใช้ไอโอ, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ จะพูดถึงการใช้งบภาครัฐในการสร้างไอโอ ยุยงสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย จะพูดถึงพ.ร.บ.คอม พิวเตอร์ฯ และกฎหมายไซเบอร์ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จะพูดถึงมุมมองผลกระทบของคนที่ถูกทำไอโอ และนายโอมาร์ หนุนอนันต์ ผู้ประสานงาน We Watch จะพูดในฐานะของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้ไอโอและมีการถ่ายทอดสด ทางเพจฝ่ายค้านเพื่อประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้ติดตาม ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวว่า เวทีดังกล่าว เป็นการทำต่อเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลที่ผ่านมา เพราะบทบาทของฝ่ายค้านไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสภาฯ แต่เราได้ทำการตรวจสอบในทุกสถานที่ ทุกเวลา ซึ่งเป้าหมายไม่ใช่การทำลายล้าง หรือเคียดแค้นใคร แต่เราทำหน้าที่ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ความจริงแล้วรัฐบาลที่ดี จะต้องไม่ตั้งแง่ ว่าทำไมฝ่ายค้านจึงตรวจสอบนอกสภาฯ แต่จะต้องกลับไปตรวจสอบตัวเองว่ามีอะไรบ้างที่เป็นความผิดพลาด เหล่านี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลที่ดีควรจะทำ ไม่ใช่ออกมาตั้งแง่ หรือออกมาบอกว่าจะฟ้องกลับ ส่วน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหว การจัดตั้งพรรค การเมืองใหม่ ว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ มาจากเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ใช้หลักคิด ทุกคะแนนจะไม่ตกน้ำ จึงเป็นความหวังจากพรรคการเมืองเล็กๆ ที่มีความฝัน จะมี ส.ส.ในสภาเหมือนกับพรรคเล็ก จำนวน 10 กว่าพรรคในสภาชุดนี้ ฉะนั้นถ้าต้องการให้ระบบการเมืองเข้มแข็ง หรือสนามเลือกตั้งไม่ใช่สนามทดลองสำหรับพรรค การเมืองบางพรรค จึงเห็นควรที่จะปรับปรุงแก้ไขระบบเลือกตั้งของรัฐธรรมนูญปี 60 กลับไปใช้หลักเกณฑ์ระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ปี 40 หรือปี50 จะดีกว่า โดยใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง2ใบยึดหลักเลือกคนที่เรารัก1 ใบ เลือกพรรคที่เราชอบ1ใบ จะทำให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีอิสระในการลงคะแนน ดีกว่าระบบเลือกตั้ง ที่ใช้บัตรใบเดียว ซึ่งเป็นระบบที่ส่งเสริมให้มีการซื้อเสียงอย่างรุนแรงมากที่สุด เพราะการเลือกตั้งบัตรใบเดียว ซื้อเสียง1ใบ ได้ผล3ต่อ คือ 1.ได้ ส.ส.ระบบเขต 2.ได้ ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อและ3.ได้คะแนน ของผู้ได้รับการเสนอตัวนายกฯ ด้วยดังนั้น เพื่อให้การเมืองมีความเข้มแข็ง ลดการแข่งขันทางการเมือง ที่รุนแรง ทำการเมืองให้ใสสะอาดมากยิ่งขึ้น จึงขอสนับสนุนการยกเครื่องระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อแก้ไขระบบการเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุด วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทนายความ เดินทางมายังศาลอาญา รัชดาฯ ตามกำหนดนัดพร้อมคู่ความ ในคดีที่ถูกพนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เป็นจำเลย ร่วมกับ นายสัชญา สถิรพงษะสุทธิ อายุ 44 ปี ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน พ.ร.บ.ควบคุมยุทธ ภัณฑ์ พ.ศ.2530 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 371 โดย น.ส.ปารีณา กล่าวว่า มาตามนัดกำหนดนัดพร้อมคู่ความของศาลอาญา หลังจากที่มีการย้ายการพิจารณาคดีจากศาลทหาร มาอยู่ในอำนาจการพิจารณาคดีของศาลอาญา ส่วนคดีที่มีการแจ้งความเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ในจ.ราชบุรีสนั้น ในวันที่ 10 มี.ค.จะไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. หลังได้รับหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน ส่วนรายละเอียด ทั้งหมดอยู่ที่ทนายความ และ ยืนยันที่จะปฏิเสธ โดยมีหลักฐานในการต่อสู้คดีเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ซึ่งหากท้ายที่สุดผลของคดีจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ