“สนธิรัตน์”ชงครม.4 มาตรการกระตุ้น ศก.ลดค่าครองชีพพลังงานรับโควิด-19 วงเงิน 4.5 หมื่นล้านบาท ทั้ง คืนเงินประกันมิเตอร์เริ่ม เม.ย.นี้-ลดค่าไฟฟ้า 3 เดือน-ยืดเวลาชำระค่าไฟฟ้าเดือน เม.ย.-พ.ค.เป็นเวลา 6 เดือน-ดึงเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าสร้างงานร่วมสู้ภัยแล้ง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ว่า ที่ประชุมเห็นชอบนโยบายในการนำมาตรการไฟฟ้ามาช่วยลดผลกระทบประชาชนและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจรวม 4.5 หมื่นล้านบาท โดยจะนำเสนอ ครม.วันพรุ่งนี้(10 มี.ค.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการกำหนดรายละเอียดการดำเนินการต่อไป ทั้งนี้มีทั้งหมด 4 มาตรการได้แก่ 1.คืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้า สำหรับประชาชน และผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดเล็ก ในบิลค่าไฟฟ้าเดือนมี.ค.63 วงเงินรวม 3 หมื่นล้านบาท มีทั้งหมด 21.5 ล้านราย ประกอบไปด้วย มิเตอร์ของการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) ประมาณ 3 ล้านมิเตอร์วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท จำนวนเกือบ 19 ล้านมิเตอร์ ซึ่งแต่ละรายจะได้รับคืนตามขนาดมิเตอร์ ส่วนใหญ่อยู่ที่ 2,000-4,000 บาท 2.ลดค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.-พ.ค.63โดยลดค่าไฟฟ้าจากค่าเฉลี่ยปัจจุบัน 3.64 บาท/หน่วย เหลือ 3.50 บาท/หน่วย โดยหากไม่เข้ามาดูแลค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3.70 บาทต่อหน่วย โดยการดูแลดังกล่าวใช้เงินมาดูแลราว 10,000 ล้านบาท หรือประมาณ 23.2 สตางค์/หน่วย โดยมาจาก กฟน.,กฟภ.ประมาณ 4,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือกว่า 5,000 ล้านบาท เป็นเงิน call back ที่เกิดจาก 3 การไฟฟ้าไม่สามารถลงทุนได้ตามเป้าหมายที่กำหนด 3.ให้กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า บ้านอยู่อาศัย,กิจการขนาดเล็ก และโรงแรมสามารถขยายเวลาชำระค่าไฟฟ้าประจำเดือนเม.ย.และเดือนพ.ค.63 เป็นเวลา 6 เดือน เพราะคาดว่า ในช่วงดังกล่าวนักท่องเที่ยวยังมีจำนวนน้อย จนกระทบต่อผู้ประกอบการและประชาชนกลุ่มนี้ 4.เห็นชอบให้นำเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าวงเงิน 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบปี 2562 ที่หลือวงเงิน 2,500 ล้านบาท และงบปี 2563 วงเงิน 1,500 ล้านบาทให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทยมาใช้ดำเนินโครงการสร้างงานให้เกิดประโยชน์ในการแก้ปัญหาภัยแล้งในท้องถิ่นต่างๆเช่น ขุดลอกคูคลอง ผันน้ำ เป็นต้น เป็นการอัดฉีดเม็ดเงินในการจ้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก บรรเทาผลกระทบเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายอื่นๆนั้นกระทรวงพลังงานจะหารือกันในช่วงต่อไป โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ดิ่งลงแรงก็นับว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่กระทรวงจะมองถึงข้างหน้าว่าควรจะมีมาตรการเสริมอย่างไร โดยจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริการกองทุนน้ำมันในเร็วๆนี้