โรงพยาบาลทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี วางมาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค – 19 จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังคัดกรองทั้งคนไข้และญาติที่มาด้วยทุกคนตลอด 24 ชม. ก่อนเข้าไปภายในโรงพยาบาล ต้องไม่ได้เดินทางกลับจากต่างประเทศพื้นที่เสียง และต้องไม่มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เสมหะ และเหนื่อยหอบ อย่างใดอย่างหนึ่ง หากพบมีอาการจะถูกแยกเข้าคลินิกโรคทางเดินหายใจตรวจรักษาแยกโดยเฉพาะ ที่จังหวัดอุทัยธานี จากสถานการณ์ไวรัสโควิค -19 ที่แพร่ระบาดในประเทศจีน และอีกหลายระเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่อง และนับวันยิ่งจะเพิ่มการระบาดมากขึ้น เพื่อเป็นการวางมาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค – 19 ซึ่งจังหวัดอุทัยธานี โดยสาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานีหวั่นเกิดการแพร่กระจายเพิ่มมากขึ้น อย่างที่โรงพยาบาลทัพทันได้มีการวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค – 19 ได้จัด เจ้าหน้าที่คัดกรองคนไข้ ญาติคนไข้ที่เดินทางมาด้วย โดยตั้งโต๊ะจุดคัดกรองด่านหน้าตลอด 24 ชม.เพื่อทำการซักประวัติก่อนเข้าไปภายในโรงพยาบาลทุกคน ทั้งการสอบถามประวัติว่ามีการเดินกลับจากต่างประเทศที่เป็นประเทศพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ และต้องไม่มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก เสมหะ และเหนื่อยหอบ จะปั๊มตรายางแสดงสัญญาลักษณ์ที่แขน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ พยาบาล และแพทย์ผู้ตรวจรักษาว่าผ่านการคัดกรองแล้ว และหากพบมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง จะถูกแยกเข้าคลินิกโรคทางเดินหายใจตรวจรักษาแยกโรคโดยเฉพาะ โดยแพทย์จะมาตรวจรักษาในจุดคัดกรองต่างหาก ส่วนผู้ที่เป็นผู้ป่วยเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน ความดัน ที่ต้องรับยาเป็นประจำ ฝ่ายเภสัชกรรมได้จัดยาส่งไปที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่งโดยให้ผู้ป่วยไปรับยาใกล้บ้านไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลทัพทันทั้งนี้เพื่อลดความแออัด และลดความเสี่ยงจากไวรัสโควิค – 19 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ส่วนผู้ที่มีประวัติการเดินทางกับจากต่างประเทศที่เป็นพื้นที่เสี่ยงแม้จะไม่ได้มีอาการต้องสงสัยแต่อยู่ในข่าวเฝ้าระวัง สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานีได้ส่งสาธารณสุขอำเภอทุกแห่ง และหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมประจำตำบลทุกแห่ง เดินสายทำการชี้แจง กับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.เพื่อทำความเข้าเจ้าถึงสถานการณ์ของการระบาด “ไวรัสโควิค – 19 แพร่ระบาดในประเทศจีน และอีกหลายระเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย มาอย่างต่อเนื่อง โดยขอความร่วมมือให้ตรวจสอบ หรือได้รับแจ้งว่ามีประชาชนในหมู่บ้านในพื้นที่ของตนเองเดินทางไปต่างประเทศในประเทศที่เป็นพื้นที่เสียงการระบาดของโค – วิค 19 แล้วเดินทางกลับพื้นที่ ให้รีบไปทำความเข้าใจกับประชาชนดังกล่าวให้อยู่แต่ในพื้นที่บ้านของตนเองโดยไม่ให้เดินทางไปในที่อื่นๆหรือในที่ชุมชนแม้ว่าจะไม่มีอาการไข้หรืออาการป่วย อย่างน้อยเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากอยู่ในระยะฟักตัว หากในวันเวลาดังกล่าวไม่พบว่ามีอาการป่วย หรือมีไข้ ก็ให้เดินทางได้ตามปกติ และหากมีอาการป่วย หรือมีไข้ และต้องไปรักษาที่โรงพยาบาล ต้องแจ้งประวัติการเดินทางไปหรือกลับจากต่างประเทศให้กับทางโรงพยาบาลให้ทราบ เพื่อจะได้มีการคัดกรองและเฝ้าระวังรวมถึงการรักษาเป็นพิเศษ