เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริเวณเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง มีวัชพืชปกคลุมผิวน้ำอย่างหนาแน่นในพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศบริเวณอ่างเก็บน้ำดังกล่าว ตลอดจนคุณภาพน้ำสำหรับผลิตน้ำประปา โดยได้รับรายงานจากนายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทานว่า กรมชลประทาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาวัชพืชปกคลุมผิวน้ำในเขื่อนกิ่วลม โดยสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ รถขุดไฮดรอลิค แบบแบ๊คโฮลงโป๊ะ เรือกำจัดวัชพืช รถบรรทุกเทท้ายสิบล้อ เข้าดำเนินการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศบริเวณเขื่อนกิ่วลม ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาในพื้นที่ ทั้งยังหาแนวทางป้องกันวัชพืชจากต้นน้ำ โดยนำทุ่นลอยน้ำไปขวางวัชพืชไม่ให้ลอยเข้ามาบริเวณอ่างเก็บน้ำ ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาระบบนิเวศในแหล่งน้ำต่างๆ และมีแผนการปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีเครื่องจักร เครื่องมือที่พร้อมเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ประชาชนในพื้นที่ และรักษาคุณภาพน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาทุกพื้นที่