ภายหลังคณะกรรมการอำนวยการทั่วไป แผนกม้าแข่งสมาคมราชกรีฑาสโมสรบริหารจัดการม้าแข่งที่สนามม้าราชกรีฑาสโมสรหรือสนามม้าฝรั่ง เขตปทุมวัน กรุงเทพ ได้แจ้งประกาศ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีมติพักการแข่งขันม้าชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและสู่ภาวะปกติ ได้สร้างความหวาดหวั่นต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจม้าแข่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วยคนเลี้ยงม้า จ๊อกกี้หรือนักขี่ม้าแข่ง เจ้าของคอกม้า คนหาหญ้า ร้านจำหน่ายอาหาร ยาบำรุงและอุปกรณ์ม้าแข่ง ฯลฯ จำนวนหลายพันคน หวั่นวิตกสนามกีฬาทหารจังหวัดนครราชสีมาหรือสนามม้าโคราช ซึ่งออกแฮนดิแคปหรือรายชื่อม้าแข่งที่ลงชื่อสมัครเข้าแข่งขันครั้งที่ 10/2563 วันที่ 7 มีนาคม ระยะทาง 1,260 เมตร อาจมีมติให้พักการแข่งม้าชั่วคราวด้วย เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มี.ค.63 นายพุฒิพัฒน์ พงษ์ไชยกุล ประธานชมรมเจ้าของม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายเกรียงไกร ใช้ฮั่วเจริญ ประธานชมรมผู้ขี่ม้าแข่ง จังหวัดนครราชสีมา และนายสมบูรณ์ บุญสำเร็จ ประธานชมรมผู้ฝึกซ้อมม้าแข่ง จังหวัดนครราชสีมา ร่วมลงนามหนังสือเรียนคณะกรรมการอำนวยการสนามกีฬาทหารจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอความอนุเคราะห์และความเมตตากรุณาอย่าเลื่อนการแข่งม้า ซึ่งต้องรอคำตอบอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มี.ค. นี้ นายพุฒิพงษ์ ประธานชมรมเจ้าของม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ผลกระทบหลังสนามม้าราชกรีฑาสโมสร งดจัดม้าแข่งชั่วคราว ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวงการม้าแข่งโคราชได้รับความเดือดร้อน หากสนามม้าโคราช งดจัดม้าแข่งอีก เมื่อฝึกซ้อมม้าแต่ไม่มีสนามลงแข่ง ม้าแข่งทั้งพันธุ์ไทยและต่างประเทศ กว่า 700 ตัว โดยแต่ละตัวมีค่าใช้จ่ายประกอบด้วยค่าแรงคนเลี้ยงม้า อาหาร-ยาบำรุงและค่าฝึกซ้อมเฉลี่ยเดือนละประมาณ 2 หมื่นบาท เจ้าของคอกม้าต้องแบกภาระรับผิดชอบเอง ก่อนหน้านี้สนามม้าเชียงใหม่ได้ปิดสนามถาวร เจ้าของม้าจังหวัดเชียงใหม่ นำม้าแข่งจำนวนกว่า 200 ตัว มาไว้ที่ จ.นครราชสีมา ม้าแข่งขาดทุนทรัพย์การเลี้ยงดูม้าและบุคคลที่เกี่ยวข้องขาดรายได้จากการนำม้ามาแข่ง หากสนามม้าเลื่อนจัดการแข่งนานเรื่อยๆ ซึ่งไม่มีใครระบุจะจัดให้แข่งม้าอีกเมื่อใด การขาดรายได้จุนเจือในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ อาจเกิดปัญหาสังคมตามมาอีก อย่างไรก็ตาม องค์กรที่เกี่ยวข้องกับม้าแข่งร่วมกับสนามกีฬาทหารจังหวัดนครราชสีมา ได้มีมาตรการป้องกันการแพระระบาด โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในจุดที่สัมผัสบ่อย เช่นอัฒจันทร์,อาคาร,ร้านค้า,ซองปล่อยม้าและที่กักกันม้า จัดหาเจลล้างมือบริเวณประตูทางเข้าและขอความร่วมมือให้ใช้หน้ากากอนามัย รวมทั้งดูแล ทำความสะอาด พ่นยาฆ่าเชื้อโรคตามคอกม้า โดยดำเนินการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย