“โฮมโปร”เผยรายได้ผลประกอบการปี 2562 มีรายได้รวมและกำไรสุทธิเป็นจำนวน 67,423.88 ล้านบาท และ 6,176.59 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้น 2.08% และ 10.05% จากปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตสูงจากกลุ่มสินค้าปรับปรุงคุณภาพอากาศ จากสภาพอากาศมลภาวะสูงผิดปกติ-กลุ่มสินค้าเครื่องทำความเย็นจากสภาพอากาศที่ร้อนต่อเนื่อง นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย ประจำปี 2562 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมและกำไรสุทธิเป็นจำนวน 67,423.88 ล้านบาท และ 6,176.59 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 2.08% และ 10.05% จากปีก่อนหน้า สำหรับยอดขายสาขาเดิมในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตสูงจากกลุ่มสินค้าปรับปรุงคุณภาพอากาศ เนื่องด้วยสภาพอากาศที่มีมลภาวะสูงผิดปกติ และกลุ่มสินค้าเครื่องทำความเย็นจากสภาพอากาศที่ร้อนต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอดขายสาขาในครึ่งปีหลังยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยนั้นมีประสิทธิภาพการดำเนินงานดีขึ้น เป็นผลจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านต่างๆ ทั้งนี้บริษัทเล็งเห็นความสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงการคัดสรรและพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีผลประกอบการเติบโตมาจากรายได้รวม จำนวน 67,423.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,373.97 ล้านบาท หรือ 2.08% ประกอบไปด้วย รายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งเป็นรายได้ที่ประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้าและรายได้จากการให้บริการลูกค้า Home Service รวมจำนวน 63,046.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,094.91 ล้านบาทหรือ 1.77% ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตเล็กน้อยของยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจโฮมโปร ในขณะที่ยอดขายสาขาเดิมของธุรกิจเมกา โฮม อยู่ในระดับทรงตัว รวมถึงยอดขายสาขาใหม่ทั้งธุรกิจโฮมโปร และเมกา โฮม รวมถึงรายได้จากค่าบริการ “Home Service” นอกจากนี้ โฮมโปร ยังมีรายได้ค่าเช่า จำนวน 2,207.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 232.02 ล้านบาท หรือ 11.75% เป็นผลมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้ามาร์เกต วิลเลจ และพื้นที่ให้เช่าสาขาใหม่ของโฮมโปรและเมกา โฮม ทั้งนี้ในปี 2562 บริษัทได้เปิดสาขาโฮมโปรทั้งหมด 2 แห่งคือ 1.จรัญสนิทวงศ์ 2.มุกดาหาร และโฮมโปรเอส 1 แห่งที่สามย่าน มิตรทาวน์ และได้มีการเปิดสาขาเมกา โฮม ทั้งหมด 2 แห่งคือ 1.ระยอง (บ้านฉาง) 2.บางนา-ตราด ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีสาขาโฮมโปร 84 สาขา,โฮมโปรเอส 9 สาขา,เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทมีสาขาโฮมโปร 84 สาขา,โฮมโปรเอส 9 สาขา,เมกาโฮม 14 สาขา และโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา นายคุณวุฒิ กล่าวต่อว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ เป็นผลมาจากการชะลอตัวของปริมาณการค้าโลกและอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าที่สำคัญจากการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยภาคการส่งออกได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงทั่วโลก ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงเช่นกัน เนื่องมาจากอัตราการจ้างงานที่ปรับลดลง โดยเฉพาะในภาคการผลิตเพื่อส่งออก ขณะเดียวกันกำลังซื้อของผู้บริโภคยังได้รับผลกระทบจากระดับหนี้สินภาคครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้น และราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวเองได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดน้อยลงโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่ารัฐบาลจะได้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังด้วยมาตรการต่างๆเช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการชิมช้อปใช้ เป็นต้น แต่เศรษฐกิจในภาพรวมยังคงไม่เอื้ออำนวยต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค “บริษัทขอขอบคุณในความทุ่มเท มุ่งมั่น ตั้งใจ ความรับผิดชอบของบุคลากรในทุกระดับ ตลอดจนการสนับสนุนด้วยดีจากผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเสมอมา บริษัทเชื่อว่าการเติบโตทางธุรกิจที่ได้สร้างคุณค่าให้กับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ตลอดจนชุมชนและสังคมจะเป็นปัจจัยสำคัญหลักที่จะผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน”