ที่จ.อุดรธานี ตร.คุมตัวผัวโหดทำแผนประกอบคำรับสารภาพฆ่าเมียตัวเองตาย ทนไม่ไหวเมียเมาเมื่อไรขอเหล้ากินเมื่อนั้น วันก่อเหตุทนไม่ไหวก่อเหตุใช้ไม้ฟาดเมียเพราะเมาขอเงินซื้อเบียร์ อ้างไม่ได้ฆ่า เมียเมาน็อคพื้นตาย แต่สุดท้ายจำนนต่อหลักฐานยอมเปิดปากรับสารภาพ ตร.คุมตัวผัวโหดทำแผนใช้ไม้ฟาดเมียตาย โดยวันนี้ (2 มี.ค.63) จากกรณีแจ้งตำรวจว่านางลำไพร โฆวัฒนะกุล อายุ 41 ปี เมียเมาล้มหัวน๊อคพื้นตายหลังบ้าน แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะพบบาดแผลถูกของแข็งมีคมทุบศีรษะและหน้าผากแตก ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ มีคราบเลือดในบ้านและรอยล้างคราบเลือด แพทย์ระบุเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมาก โดยชาวบ้านระบุว่าผัวเมียดื่มเหล้าแล้วทะเลาะวิวาทกันประจำ เมื่อสัปดาห์ก่อนผัวทำร้ายเมียบาดเจ็บต้องนอนโรงพยาบาล พอออกจากโรงพยาบาลก็ดื่มเหล้าเมาทะเลาะกันอีกจนเมียตาย แต่ผัวยังปากแข็งให้การปฏิเสธ ยันเมียล้มตาย ตำรวจไม่เชื่อนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก เหตุเกิดคืนวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.บรรจบ สีหานาวี ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.อารียฺ สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนพล จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 และชุดสืบสวน ควบคุมตัว นายสมเดช ยันพิมาย อายุ 45 ปี มายังบ้านเลขที่ 288 หมู่ 17 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่เป็นบ้านของนายสมเดชฯ เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางลำไพร โฆวัฒนะกุล ภรรยาจนเสียชีวิต หลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เค้นสอบอยู่นาน นาย จน นายสมเดชฯ เปิดปากรับสารภาพว่า ได้ทำร้ายร่างกาย นางลำไพรฯ ด้วยไม้ธรณีประตู แต่ไม่ได้ตั้งใจทำให้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย” โดยการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ มีแม่และลูกสาวของนายสมเดชฯ กับภรรยาเก่า มารอดูที่หน้าบ้าน พร้อมกับชาวบ้านบริเวณนั้นที่ทราบข่าว มาร่วมดูการทำแผนครั้งนี้ การทำแผนเริ่มจากที่ นายสมเดชฯ และนางลำไพร ขี่รถ จยย.ไปรับ นางลำไพรฯ กลับมาจากบ้านเพื่อนที่บ้านหนองตุ โดยขณะกลับมาบ้านได้ทะเลาะกัน เพราะนางลำไพรฯ อยากดื่มเบียร์ต่อ จากนั้นได้ขี่รถ จยย.กลับมาถึงบ้าน และอ้างว่า นางลำไพรฯ มีการเมาสุราและทะเลาะกันมา จากนั้นนายสมเดชฯ ได้เปิดประตูบ้านเข้าไป แต่นางลำไพรฯ ยังไม่เข้าบ้านนั่งที่พื้นหน้าบ้าน นายสมเดชฯ จึงไปในบ้าน แล้วนางลำไพรฯ ได้คลานเข้ามาแล้วนอนอยู่กลางบ้าน โดยทั้ง 2 คนยังมีปากเสียงทะเลาะกัน นายสมเดชฯ หยิบไม้ขวางธรณีประตู ขนาด 4 นิ้ว ยาวประมาณ 1.5 เมตร โยนใส่นางลำไพรฯ ที่นอนอยู่ จากนั้นนางลำไพรฯ ที่ยังมีสติ ได้เดินเข้าในครัว จะหาของกิน และบอกให้นางสมเดชฯ ทำมะม่วงให้กิน แต่นายสมเดชฯ ไม่ทำ นางลำไพรฯ จึงหยิบเอากระปุกใส่ปลาร้าพลาสติก ปาใส่นายสมเดชฯ แล้วทะเลาะกันอีก จนนางลำไพรฯ ได้เปิดประตูหลังบ้านออกไปแล้วล้มลง นายสมเดชฯ จึงเอากระปุกปลาร้า ราดใส่ตัวนางรำไพรฯ แล้วกลับเข้าบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้านอนดูโทรทัศน์บนเตียงแล้วหลับไป ประมาณ 1 ชั่วเศษ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ไม่เห็นนางลำไพรฯ กลับเข้ามานอน จึงเดินไปดูที่หลังบ้าน พบว่านางลำไพรฯ ยังนอนอยู่ จึงจะเข้าไปปลุกให้มานอน แต่เข้าไปพบว่า นางลำไพรฯ นอนจมดองเลือดเสียชีวิต จึงล้างเลือดออก และไปบอกกับแม่ของนามสมเดช และประธานชุมชน แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว ทางด้าน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจลงพื้นที่มาตรวจสอบ พบว่านางลำไพรฯ นอนเสียชีวิตในบ้าน โดยนายสมเดชฯ สามีบอกว่า นางลำไพรฯ ล้มนอนเสียชีวิต ทางตำรวจจึงซักถาม นายสมเดชฯ ตลอดทั้งวันทั้งคืน จนสุดท้าย นายสมเดชฯ จึงยอมรับสารภาพว่า เป็นคนที่ทำร้ายร่างกาย นางลำไพรฯ จนเสียชีวิต โดยที่ผ่านมาสามีภรรยาคู่นี้ มักจะทะเลาะกันเป็นประจำ แต่ครั้งนี้ลงมือหนักเกินไป ใช้ไม้กั้นธรณีประตูทำร้ายร่างกายภรรยาจนเสียชีวิต โดยทางพนักงานสอบสวนจะส่งไม้ไปให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอีกครั้ง “เหตุที่เกิดขึ้นเพราะการดื่มสุรา ที่ไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์ใด ๆ และทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนทำให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นมา จึงฝากเตือนผู้นิยมดื่มสุรา ที่ไม่ผิดกฎหมาย แต่ดื่มแล้วให้อยู่ในขอบเขต จะได้ไม่ต้องไปก่อเหตุกระทำความผิด ต้องถูกจับกุมดำเนินคดีเช่นนี้” พล.ต.ต.นนทชาติฯ กล่าว ทางด้าน นายสมเดช ยันพิมาย ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนทำอาชีพเป็นช่างกลึง อยู่กินกับภรรยาคนนี้มา 3 ปี รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ถอยกลับไปก็คงไม่ทำ เพราะตนไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ภรรยาเสียชีวิต ที่ทำไปเพราะอยากให้เขามีสติ เป็นเพียงการสั่งสอนให้ภรรยาเลิกเมาเท่านั้น เพราะหากตัวภรรยากินเหล้าเมื่อไหร่ เขาก็จะเมาทะเลาะกันแทบจะทุกครั้ง ส่วนตนเองนั้นจะกินเหล้าเฉพาะวันหยุดงานเท่านั้น ส่วนวันเกิดเหตุที่ทะเลาะกันจนถึงขั้นโยนไม้ใส่ เพราะวันนั้นไปกินเหล้าที่บ้านเพื่อนกลับมา เมื่อมาถึงบ้านภรรยาก็จะกินอีก ขอเงินตนซื้อเบียร์อีก 3 ขวด แต่เงินของตนเหลือน้อย ตนจึงบอกไปว่า ถ้าซื้อเบียร์แล้วจะเอาเงินที่ไหนซื้อกับข้าว จึงด่ากันแล้วทะเลาะกันอย่างรุนแรง “ซึ่งก่อนหน้าก็ทะเลาะกันเรื่องกินเหล้า ตัวภรรยาเคยกระโดดลงรถ จยย.ที่ซ้อนผมมาถึง 4 ครั้ง ภายใน 1 เดือน แล้วก็ต้องนอนโรงพยาบาลทุกครั้ง ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ก่อน ผมไปตามก็เห็นเขาอยู่บ้านลูกเขา วันพุธผมก็ไปรับกลับก็เมากลับมา ตาก็เขียว ถามไปถูกอะไรมาก็ไม่รู้เรื่อง แต่ผมก็นำเขาไปส่งโรงพยาบาล หัวก็แตกตาก็เขียว ยอมรับว่าเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น หากย้อนเวลาได้คงจะไม่ทำแบบนี้” ด้านนางม้วน ยันพิมาย อายุ 75 ปี แม่ของนายสมเดช เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุลูกชายได้ไปหาตนที่บ้าน ตนจึงให้ลูกชายไปบอกประธานชุมชนแล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวานนี้ตนได้ไปหาลูกชายที่โรงพัก และคุยกับลูกชายว่าก็ตามแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิสูจน์ไปนะลูกชาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์มาว่ายังไงก็ตามนั้น เพราะว่าตนก็ไม่ได้มาเห็นเหตุการณ์ด้วย ซึ่งลูกชายของตนทำงานจะหยุดวันอาทิตย์ แล้วก็จะดื่มเหล้าตลอด แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาก็ไปทำงานโรงกลึงจะไม่ค่อยดื่มเหล้า ตนก็ไปด่าลูกชายไม่ได้หรอก เพราะเห็นข่าวตีแม่ตายตนก็กลัวเป็นแบบนั้น ตนก็คงคิดว่าเป็นบาปใครบาปมันกรรมใครกรรมมันแม่ก็เลี้ยงได้แต่ข้าวกับน้ำเท่านั้น