นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แสดงความเสียใจกรณีชายไทยอายุ 35 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในสองของผู้ป่วยที่มีอาการหนักก่อนหน้านี้ ได้เสียชีวิตลง โดยป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก และต่อมามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ร่วมด้วย ถูกส่งต่อมาจากโรงพยาบาลเอกชนไปรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร จนตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 1 สัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากรักษาเกือบ 1 เดือน ด้วยสภาพปอดที่เสื่อมแต่เดิม หัวใจและอวัยวะภายในทำงานหนัก ทำให้อวัยวะภายในหลายอย่างล้มเหลว จึงเสียชีวิตในที่สุด แต่ย้ำว่าระบบสาธารณสุขและการรักษาของคณะแพทย์ไทยมีมาตรฐานระดับสูง ขณะนี้มีสถิติการรักษาผู้ป่วยหายแล้ว 30 ราย จากยอดผู้ป่วยสะสม 42 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 11 ราย จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต 1 รายนี้ จะเกี่ยวกับโควิด-19 หรือไม่ จะเร่งตรวจสอบต่อไป
นางนฤมล กล่าวว่า นายกฯ ยังฝากให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและทีมแพทย์ผู้ให้การรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา และขอความเป็นส่วนตัวให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ที่สำคัญได้กำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และขอความร่วมมือคนไทยป้องกันตนเองและผู้อื่น ปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการและประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ให้เฝ้าระวังและแจ้งข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่หรือคณะแพทย์ หากเข้าข่ายต้องสงสัยว่าป่วย เช่น เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ไม่เช่นนั้นจะมีความผิด พร้อมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีการใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงกับกรณีการควบคุมการระบาดของไวรัส ซึ่งเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน