"สุวิทย์"โพสต์ข้อความ โวย "เล่นการเมืองแบบเดิม" หลังมีข่าวลือชื่อติดโผโดนปรับออกจากครม.ครวญเป็นคนไม่มีพวก -ฐานสส.ขอ "นายกฯ"ตัดสินใจด้วยเหตุผล มากกว่าประโบชน์นักการเมือง วันนี้ (29ก.พ.63) ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เขียนข้อความผ่านเฟชบุคส่วนตัว "ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ Dr. Suvit Maesincee" ระบุว่า
เล่นการเมืองแบบเดิมๆ จะเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นใหม่ได้อย่างไร ? ที่ผ่านมาผมพูดแต่เรื่องงานที่ได้รับมอบหมายจากท่านนายกฯ หลีกเลี่ยงไม่พูดเรื่องการเมือง แต่จากที่มีข่าวออกมาเป็นระยะว่าจะมีการปรับครม.หลังการอภิปรายฯ และมีชื่อของผมติดอยู่ในโผถูกปรับออกด้วยเหตุผล(ตามข่าว) อยู่ 3 ข้อ คือ 1. ผมขาลอยในพรรคไม่ได้เป็นสส.และไม่ได้จ่ายเงินให้พรรค 2. ผมไม่มีฐานเสียงส.สในมือ และ 3 ผมไม่เข้าพรรคและไม่มีพวกในพรรค วันนี้ผมขอใช้พื้นที่เพจของผมแสดงความเห็นส่วนตัวในฐานะที่ผมถูกทั้งคนในพรรคและสื่อพาดพิงอยู่เสมอครับ ผมเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ เมื่อจะมีการเลือกตั้งผมก็ได้ลาออกจากการเป็นรมต.ไปทำหน้าที่ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เดินสายช่วยลูกพรรคหาเสียงทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด และเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นรมต. ผมก็ทำงานในหน้าที่รับผิดชอบของผมอย่างเต็มที่ ผมคิดว่าหากมีการปรับครม.และคัดเลือกรัฐมนตรีด้วย 3 เหตุผลนี้ ประเทศไทยคงไม่มีทางหลุดจากวงจรอุบาทว์ทางการเมืองที่สร้างปัญหาซ้ำซากแบบเดิมที่ยังปรากฎอยู่ทุกวันนี้ได้ ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาวิกฤติเชิงซ้อน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต้องมี "ความรู้ ความสามารถ และมีปัญญา" นำพาประเทศไปข้างหน้า แก้ปัญหาภายในและยืนหยัดแข่งกับโลกภายนอกให้ได้ มากกว่าการปรับครม.ตามอำนาจต่อรองและแรงกดดันจากกลุ่มคนที่รอแสวงหาประโยชน์ในรัฐบาลครับ ผมเข้ามาเป็นรมต.ด้วยความตั้งใจ จริงใจและทำงานอย่างสุดความสามารถ เพราะอยากเห็นประเทศชาติบ้านเมืองพัฒนาก้าวหน้าขึ้น แน่นอนว่าการที่ผมได้เข้ามาร่วมเป็นรมต.ในรัฐบาลที่แล้ว หรือในรัฐบาลนี้นั้นก็ล้วนมาจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกด้วยตัวท่านเอง ผมเคารพและเชื่อมั่นในการตัดสินใจของท่านเสมอครับ และผมเชื่อว่าหากท่านจะปรับครม.ก็ต้องด้วยเหตุผลที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์ของนักการเมืองครับ ช่วยกันพลิกโฉมการเมืองแบบใหม่กันเถอะครับ ประเทศไทยรอการพัฒนาอีกหลายอย่าง อย่างแรกที่สำคัญที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนาเรื่องอื่นๆคือ "นักการเมืองแบบเดิมๆบางคน" นี่ละครับควรต้องรีบพัฒนา!!