"ฟาร์มสุขใจ"เดินหน้าช่วยเกษตรกรกลุ่มภาคตะวันออก สร้างเศรษฐกิจและอาชีพในชุมชน หนุนการปลูกกัญชาและกัญชง ตามกฏหมายและเสริมโครงการ BIG FARM เพื่อช่วยเหลือสินค้าของชุมชน
วันนี้(29 กุมภาพันธ์ 2563) ณ บ้านสวนบุญ หมู่ 11 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายคุณเศก ดวงเพชร ประธานสมาพันธ์วิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์เพื่อไทยภาคตะวันออก นำคณะประธานจังหวัดของภาคตะวันออก ให้การต้อนรับ นายดิชฐ์พิเชษ สุวรรณโพธิ์ ประธานโครงการฟาร์มสุขใจ นางสาวนงนุช บัวใหญ่ CEO บริษัท ฟาร์มสุขใจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (มหาชน) ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ประธานสมาพันธ์วิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์แพทย์ไทย และ คณะผู้บริหาร บริษัท ฟาร์มสุขใจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (มหาชน) เดินทางลงพื้นที่พบปะกลุ่มเกษตรกรตาม "โครงการ ฟาร์มสุขใจ BiG FARM" ในพื้นที่ภาคตะวันออก ประกอบด้วยตัวแทนจาก จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา และ จังหวัดนครนายก เพื่อพิจารณาสนับสนุนโครงการปลูกกัญชาและกัญชงเพื่อการแพทย์ ตาม พ.ร.บ.นิรโทษกรรมกัญชา พ.ศ. 2562 และส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจไทยในอนาคตต่อไป
นายดิชฐ์พิเชษ สุวรรณโพธิ์ ประธานโครงการ บริษัท ฟาร์มสุขใจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า ในช่วงนี้ทาง บริษัท ฟาร์มสุขใจ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (มหาชน) ได้ออกติดตามผลงานตามจังหวัดต่าง ๆ ตาม "โครงการฟาร์มสุขใจ BIG FARM ได้ดำเนินทำเอาไว้เป็นระยะ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้จัดตั้งโครงการศูนย์เรียนรู้ของชุมชนเครือข่ายฟาร์มสุขใจ ร่วมกับผู้นำองค์กรหัวใจสีเขียว (Green CEOs)เพื่อการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นที่ยั่งยืน เป้าหมายร่วมกับเทศบาลตำบลนำร่อง 75 พื้นที่ๆละจังหวัด ให้เป็นต้นแบบพร้อมขยายสู่พื้นที่อื่นๆต่อไป และร่วมเป็นผู้ก่อตั้งจุดกระจายสินค้าของชุมชน “บิ๊กฟาร์เมอร์” (Big Farmer) เพื่อรับซื้อสินค้าจากชุมชนและขายสินค้าของชุมชนจากการสนับสนุนภายใต้โครงการฯ
นายดิชฐ์พิเชษ กล่าวอีกว่า ศูนย์เรียนรู้ของชุมชนเครือข่ายฟาร์มสุขใจ พร้อมกับพี่น้องเครือข่ายฯ ทั้งประเทศ ผู้บริหารโครงการและคณะที่ปรึกษา ได้ดำเนินการตามเป้าหมายเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน กับ 5 ภากิจหลักที่สำคัญ ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักนั้นที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือ แหล่งผลิตอาหารด้านการเกษตรปลอดภัย โดยพี่น้องเกษตรกรทุกพื้นที่ของประเทศไทย มุ่งพัฒนาพลิกฟื้นชีวิตเกษตรกรอันเป็นรากฐานที่สำคัญของการพัฒนาประเทศ ให้กลายเป็นเกษตรกรยุค 4.0 โดยการนำเศรษฐกิจแบบดิจิทัลเข้ามาช่วยขายสินค้าตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งถือว่าสู่วัฒนธรรมองค์กรของโลกยุคใหม่ นั่นคือ Network หรือ เครือข่าย อันจะเป็น “ยุทธวิธีเพื่อประชาชนเข้มข้น ชุมชนเข้มแข็ง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน" ต่อไป.





