“เผยผลประกอบการปี 2562 มีกำไร 109.04 ล้านบาท รับมือสงครามการค้า-บาทแข็ง เผยท่าเรือชายฝั่ง BBT พลิกกำไรได้ตามเป้า ตอกย้ำพื้นฐานยังแกร่ง รุกขยายธุรกิจต่อเนื่อง นางเสาวคุณ ครุจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน)หรือ PORT เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 1,528.72 ล้านบาท ลดลง 1.87 % จากรายได้รวม 1,557.89 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 367.37 ล้านบาท ลดลง 7.79 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 109.04 ล้านบาท ลดลง 20.16 % จากกำไรสุทธิ 136.57 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการให้บริการเรือใหญ่ (Feeder) และการให้บริการเรือขนส่งชายฝั่ง (Barge) ซึ่งเป็นบริการหลักลดลง 10.27 % มีปัจจัยการชะลอตัวของการนำเข้า-ส่งออกจากสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐฯและจีน รวมทั้งค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งตัวต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดัน อย่างไรก็ตามบริษัท บางกอก บาร์จ เทอร์มินอล จำกัด (“BBT”) บริษัทย่อยที่ร่วมทุนกับ MOL เพื่อให้บริการท่าเรือชายฝั่งกลับมีผลประกอบการที่ดีขึ้นและมีกำไรจากการดำเนินงานเป็นปีแรกหลังจากเปิดให้บริการในเดือน พ.ย.60 มั่นใจว่าการเติบโตของธุรกิจที่ไปพร้อมกับคู่ค้าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การเติบโตเป็นไปอย่างยั่งยืน ทั้งนี้คณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้จ่ายปันผล 0.07 บาทต่อหุ้นจากกำไรในส่วนที่ได้รับยกเว้นภาษี โดยกำหนดวันปิดทะเบียนรายชื่อ ผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 เม.ย.63 จ่ายปันผลในวันที่ 20 พ.ค.63 นายบัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PORT กล่าวว่า คาดว่าปีนี้บริษัทเติบโตเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมั่นใจว่าการเปิดให้บริการโครงการโลจิสติกส์พาร์ค และศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 50 ไร่ได้ในช่วงปลายปี 2563 โดยจะเปิดในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพฯผ่านบริษัทบริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด(Bangkok Logistics Park) ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย ขณะที่โครงการท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3 ผ่านบริษัทบางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด(Bangkok River Terminal) ซึ่ง PORT ร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลกและกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผลเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 ซึ่งทั้ง 2 โครงการนอกจากจะช่วยในการเติบโตและขยายฐานของบริษัทฯให้ใหญ่ขึ้น ยังจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจอีกด้วย สำหรับ PORT เป็นผู้ให้บริการท่าเรือเอกชนครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทยโดยให้บริการ 1.ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ ครบวงจรสำหรับเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Feeder) และเรือขนส่งสินค้าชายฝั่ง(Barge) รวมถึงการให้บริการบรรจุสินค้าเข้าและถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ (CFS) และซ่อมแซมทำความสะอาดตู้คอนเทนเนอร์ (Container Depot) 2.ธุรกิจการให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบกภายในบริเวณจังหวัดกรุงเทพฯและปริมณฑลบริเวณเขตพื้นที่แหลมฉบัง 3.ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้าโดยให้บริการพื้นที่ลานพักตู้คอนเทนเนอร์ และคลังจัดเก็บสินค้ากับลูกค้า ทั้งที่เป็นเขตให้บริการปกติและปลอดภาษีอากร (Free Zone) ซึ่งปัจจุบันบริษัทให้บริการแก่กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกกลุ่มธุรกิจ e-commerce และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม 4.ธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องอื่นๆอาทิ การให้บริการ Freight Forwarding เป็นต้น