เลขาฯศาลยุติธรรม เผย อธ.ศาลอาญากรุงเทพใต้ สั่งเรียกสำนวนคดี โอนหุ้นจาก พ.พนิดา ป้องกันกระทบความยุติธรรม เมื่อวันที่ 27 ก.พ.นาย สราวุธ เบญจกุล เลขาสำนักงานศาลยุติธรรม ได้เปิดเผยว่า ตนได้รับเเจ้งจาก น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้น 300 ล้านของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ที่มี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์กับพวกเป็นจำเลย ที่ถูกต้องหาว่า อุ้มฆ่า นาย วีรชัย ศกุนตะประเสริฐ อายุ67พี่ชาย น.ส.พนิดา เพื่อข่มขู่ทางคดีให้ยกฟ้อง ว่า ทาง น.ส.พนิดาต้องการให้ทางสำนักงานศาลแจ้งข้อมูลผ่านไปทางสื่อมวลชน ว่าณ.ปัจจุบัน นายอาคม รุ่งแจ้ง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งเรียกสำนวนคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ ที่มีน.ส.พนิดาเป็นเจ้าของสำนวนกลับคืนแล้ว แล้วโดยจะมีการมอบสำนวนคดีดังกล่าวให้ผู้พากษาคนอื่นเป็นผู้ทำคำพิพากษาแทนตามระเบียบเเละกฎหมาย โดยเหตุผลการเรียกคืนสำนวนเนื่องจากเหตุดังกล่าวเป็นเรื่องกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรมของศาล เกรงว่าคนภายนอกจะเข้าใจผิดในการทำงานของศาลซึ่งที่ผ่านมาก็มีสื่อมวลชนโทรศัพท์มาขอสัมภาษณ์ น.ส.พนิดาเรื่องการทำคำพิพากษาเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการประสานมายังตนเพื่อช่วยสื่อสารต่อให้เข้าใจว่า การทำงานของผู้พิพากษาต้องมีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซง ในเรื่องการพิจารณาพิพากษาคดีผู้พิพากษาไม่สามารถให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนได้ตามระเบียบ อีกทั้งเมื่อมีการโอนวำนวนไปแล้วจึงขอร้องว่าอย่าได้มีการติดต่อไปยังท่านอีกเลย ผู้สื่อข่าวว่าสำหรับคำสั่งโอนคดีดังกล่าวเป็นไปตามพระราชบัญญัติพระธรรมนูญศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 33 วรรคหนึ่ง หมวด 4เรื่อง การจ่าย การโอน และการเรียกคืนสำนวนคดี ที่บัญญัติว่า การเรียกคืนสำนวนคดีหรือการโอนสำนวนคดีซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบขององค์คณะผู้พิพากษาใด ประธานศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค อธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้น หรือผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จะกระทำได้ ต่อเมื่อ เป็นกรณีที่จะกระทบกระเทือน ต่อความยุติธรรม ในการพิจารณา หรือ พิพากษาอรรถคดี ของศาลนั้น และรองประธานศาลฎีกา รองประธานศาลอุทธรณ์ รองประธานศาลอุทธรณ์ภาค รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลชั้นต้น หรือผู้พิพากษาที่มีอาวุโสสูงสุด ในศาลจังหวัด หรือผู้พิพากษาที่มีอาวุโสสูงสุดในศาลแขวง แล้วแต่กรณี ที่มิได้เป็นองค์คณะในสำนวนคดีดังกล่าวได้เสนอความเห็นให้กระทำได้