ช่วงเวลา18.4.น.วันนี้(24 ก.พ.63 ) พ.ต.ท.บุญเอก สรรพคง สราวัตรเวร สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายอยู่บนขบวนรถไฟ เหตุเกิดบริเวณสถานีรถไฟปากท่อ หมู่ 8 ต.ปาทห่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผู้กำกับ สภ.ปากท่อ นายประทีป นทีทวีวัฒน์ นายอำเภอปากท่อ นายลือชา วงศ์เปี่ยม ปลัดอาวุโสอำเภอปากท่อ นายเดชา เรืองอ่อน รักษาการป้องกันสาธารณภัยราชบุรี มูลนิธิประชานุกูล มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ รถพยาบาลปากท่อ ที่เกิดเหตุพบขบวนรถไฟขนส่งผู้โดยสาร ขบวน 4550 สายกรุงเทพ-สุไหโกลก ชนกับขบวนรถไฟขนส่งสินค้า 4210 หาดใหญ่-กรุงเทพ ซึ่งเป็นรถเปล่าตู้สินค้าตกรางพลิกตะแคงขวางราง จำนวน 8ตู้ ซึ่งด้านหน้าบริเวณคนขับชนประสานงามีคนขับติดอยู่ภายใน สภาพพังเสียหายยับเยิน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างงัดนายปกรณ์ มโนนันท์ อายุ 37 ปีอยู่บ้านเลขที่ 257 / 14 แฟลต 13 ชั้น 2 นิคมรถไฟ กม.11 กทม. เป็นคนขับรถไฟถูกอัดติดจนขาหัก พร้อมทั้งผู้บาดเจ็บในรถไฟออกมาเพื่อส่งไปยังโรงพยาบาลปากท่อ ในเบื้องต้นลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมดเบื้องต้น จำนวน 31 ราย ส่งรพ. จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ในเวลาดังกล่าวรถไฟขบวน 4550 สายกรุงเทพ-สุไหโกลก ออกจากหัวลำโพงมุ่งหน้าไป สุไหงโกลก เมื่อมาถึงที่สถานีปากท่อ ได้วิ่งมาในราง 2 จอดหน้าสถานีเพื่อรับผู้โดยสารมุ่งหน้าลงใต้ จากนั้นรถไฟขบวนสินค้า 4210 หาดใหญ่-กรุงเทพ วิ่งมาจากใต้เข้า กทม. แต่วิ่งเข้ามาในรางที่ 2 ซึ่งเป็นรางเดียวกันกับรถไฟที่จอดรอ ทำให้ประสานงากันอย่างเต็มที่เสียงดังสนั่น ทำให้หัวรถจักรอัดก็อปปี้ และทำให้หัวรถจักรอัดต่อไปยังต็ที่ 2 และ 3 เสียบซ้อนกันจนทำให้ผู้โดยสารกระเด็นไปกันคนละทิศละทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งลำเลียงและนำผู้โดยสารออกจากรถไฟอย่างเร่งด่วน ต่อมา นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุพร้อมทั้งเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อวางแผนการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารทั้งหมด ในเบื้องต้นได้นำผู้โดยสารมารวมกันที่บริเวณด้านหน้า สภ.ปากท่อ และนำอาหารเครื่องดื่มดูแลอำนวยความสะดวกให้กับทุกคน ซึ่งทางสถานีรถไฟได้ประสานงานเพื่อนำรถทัวร์มารับผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทาง ส่วนผู้โดยสารที่ยังไม่สามารถเดินทางไปต่อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดที่พักไว้ที่ห้องประชุม ชั้น 3 สภ.ปากท่อ และบริเวณศาลาวัดปากท่อ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย และให้ความสะดวกกับผู้ที่ประสบเหตุทุกคน อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาดิที่ร่วมกันเดินทางไปในขบวนเดียวกัน ทำให้บางคนถึงกับอยากกลับบ้านโดยเร็ว และบางรายก็ยกเลิกการเดินทาง โดยโทรศัพท์หาญาติและหารถกลับกันหลายราย