ลานบ้านกลางเมืองพาไปสัมผัสชุมชนบางสระเก้าถิ่นตะวันออก “เสื่อกกบางสระเก้า หลวงพ่อเต่าพระดี ตำนานมีเก้าสระ ถิ่นวัฒนธรรม สง่าล้ำวัดพัฒนา การกีฬาขึ้นชื่อเลื่องลือสามัคคี” นี่คือคำขวัญของตำบลบางสระเก้า อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ที่ตำบลบางสระเก้า มีชุมชนเล็กๆ หลายชุมชนที่มีเสน่ห์ซึ่งชวนให้ใครหลายคนต้องมาเยือน โดยเฉพาะชุมชนวัดบางสระเก้า เป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีตำนานทางประวัติศาสตร์อันเลื่องชื่อของสมเด็จพระเจ้าตากสิน และมีอัตลักษณ์โดดเด่นทางวัฒนธรรมท้องถิ่น เป็นชุมชนเกษตรกรรม มีพื้นที่ราบลุ่มปากแม่น้ำที่เชื่อมสู่ทะเลป่าชายเลน โดยชาวบ้านในตำบลมีอาชีพเกี่ยวข้องกับการทอเสื่อ ทำนา ทำสวนผลไม้ และการประมงพื้นบ้าน อย่างที่เรียก 3 น้ำ 9 นา คือ น้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย พร้อมทำนาข้าว นากก นาปอ นาบัว นาถั่ว นาข้าวโพด นามะพร้าว นามะนาว และนากุ้ง ประวัติท้องถิ่นแต่เดิม มีการเล่ากันว่า ในท้องที่นี้ได้มีช้างป่ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ทางเดินของช้างเกิดเป็นร่องน้ำขนาดใหญ่ เมื่อฝนตกก็แปรสภาพเป็นคลองน้ำ และเมื่อเวลาช้างนอนจมปลักทำให้ดินยุบตัวเกิดเป็นสระขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งสิ้น 9 สระ จึงเรียกท้องที่บริเวณนี้ว่า “บางสระเก้า” (ข้อมูลสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี) ในวิถีตำบลสระเก้า นอกจากทำเกษตรกรรมและมีอาชีพข้างต้นแล้ว ชาวชุมชนวัดบางสระเก้ายังนำเรื่องคุณธรรมมาดำเนินชีวิต ภายใต้โครงการชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) โดยมีพระครูโสภณสาสนานุรักษ์ เจ้าคณะอำเภอแหลมสิงห์ เจ้าอาวาสวัดบางสระเก้า ผู้บริหารและครูในโรงเรียนวัดบางสระเก้า ผู้ใหญ่บ้านชาตรี พลอยศิริ หมู่ที่ 2 ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง เป็นหลักชี้ชวนให้ทุกคนในชุมชนนำทุนทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่น มาใช้สอยประโยชน์ให้เกิดคุณค่าของชุมชน เพื่อที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต มีคุณธรรม ร่วมสืบสานประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่น และทำกิจกรรมจิตอาสาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ดินแดน 3 น้ำ 9 นา มีเส้นทางประวัติศาสตร์สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงมารวบรวมไพร่พลและกองกำลังในจังหวัดจันทบุรี เพื่อกลับไปกอบกู้เอกราชในสยาม มาพัฒนาต่อยอดสร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม สินค้าของที่ระลึก อาหารทะเลสด อาหารทะเลแปรรูป โดยเฉพาะช่วงงานประเพณีประจำปี นักท่องเที่ยวจะเข้ามาเที่ยวในชุมชนจำนวนมากกว่าปกติ คนในชุมชนนอกจากมีรายได้เพิ่มแล้วยังแสดงความเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับผู้มาเยือน ขณะที่คนในชุมชนมีอาชีพที่มั่นคง ยังมีรายได้เสริมจากการรวมกลุ่มอาชีพทำผลิตภัณฑ์จากเสื่อกก รายได้ต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งมีการรวมกลุ่มอาชีพช่วยเหลือเกื้อกูลกันที่โดดเด่นคือ ศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บ้านปลา-ธนาคารปู ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้คนมาศึกษาดูงานอยู่มิขาด จัดได้ว่าคนในชุมชนรู้จักทำมาหากิน พึ่งพาตนเอง พอมีพอกิน ปลูกเองกินเอง มีเหลือก็แบ่งขาย มีรายได้ มีกลุ่มออมทรัพย์เพิ่มขึ้นทุกปี ชาวชุมชนวัดบางสระเก้ากล้าพูดได้ว่า ทุกคน ทุกครอบครัวอยู่ดีมีสุข สวรรค์บนดิน 3 น้ำ 9 นา