นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขตตรวจราชการที่ 8 เป็นประธานในการประชุมโครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในเขตพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) ณ ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์จังหวัดชลบุรี
นายอำพันธุ์ กล่าวว่า จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่เป้าหมายที่จะดำเนินโครงการ ฯ ที่หมู่ที่4 ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี โดยมีเกษตรกรนำร่องที่ประสงค์ จะเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5 ราย ซึ่งเกษตรกรไม่มีความประสงค์จะปรับเปลี่ยนอาชีพด้านการเกษตร (ปัจจุบันทำสวนยางพารา) จังหวัดชลบุรี จึงมีแนวคิดที่จะส่งเสริมอาชีพปลูกไผ่ ให้กับเกษตรกร เนื่องจากไผ่เป็นพืชที่มีขนาดใหญ่ สามารถปลูกเป็นแนวป้องกันไม่ให้ช้างป่าเข้ามาทำลายพืชผลทางการเกษตรของเกษตรกรได้ และสามารถนำผลผลิตจากไผ่ไปจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งได้ ซึ่งหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องบูรณาการร่วมกันในการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรให้สามารถเลือกไผ่ ที่เหมาะสมกับการใช้งาน เนื่องจากไผ่แต่ละสายพันธุ์มีคุณสมบัติแตกต่างกัน รวมทั้งหน่วยงานจะต้องคำนวณต้นทุนที่ต้องใช้ในการปลูกไผ่ รายได้ที่จะได้รับจากการจำหน่ายไผ่และหาตลาดที่อยู่ใกล้เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนในการขนส่งให้แก่เกษตรกร
ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรีบูรณาการจัดทำ ปรับเปลี่ยนและส่งเสริมอาชีพ ด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพด้านการเกษตร ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และสามารถอยู่ร่วมกันกับช้างได้อย่างมีความสุข โดยไม่ทำลายระบบนิเวศ หรือบุกรุกทำลายป่า เป็นโครงการที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เกษตรกรมีความพร้อมและประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ เป็นโครงการที่สามารถดำเนินการนำร่องได้ทันที และสามารถขยายผลในโอกาสต่อไปได้ พร้อมทั้งมีความเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่ และมีตลาดรองรับผลผลิต นอกจากนี้หน่วยงานยังส่งเสริมให้ปลูกพืชที่มีกลิ่นฉุน เช่น ตะไคร้ ชะอม ขมิ้น ข่า ไพล พริก เป็นต้น เพื่อนำมาทำเครื่องแกงและส่งขายกับอภัยภูเบศร
ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรีบูรณาการจัดทำ ปรับเปลี่ยนและส่งเสริมอาชีพ ด้านการเกษตรให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพด้านการเกษตร ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และสามารถอยู่ร่วมกันกับช้างได้อย่างมีความสุข โดยไม่ทำลายระบบนิเวศ หรือบุกรุกทำลายป่า เป็นโครงการที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เกษตรกรมีความพร้อมและประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ เป็นโครงการที่สามารถดำเนินการนำร่องได้ทันที และสามารถขยายผลในโอกาสต่อไปได้ พร้อมทั้งมีความเชื่อมโยงตลอดห่วงโซ่ และมีตลาดรองรับผลผลิต นอกจากนี้หน่วยงานยังส่งเสริมให้ปลูกพืชที่มีกลิ่นฉุน เช่น ตะไคร้ ชะอม ขมิ้น ข่า ไพล พริก เป็นต้น เพื่อนำมาทำเครื่องแกงและส่งขายกับอภัยภูเบศร