คดียิง “กำนันกรรณิการ์” ผู้ต้องหาที่ถูกจับประกอบด้วย 1.นายสามารถ ทิพยศักดิ์ อายุ 57 ปี อดีตกำนัน ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้จ้างวาน 2.นายสำริด สังข์สิงห์ อายุ 59 ปี ผู้จ้างวาน 3.นายประสิทธิ์ อินทร์เนื่อง อายุ 55 ปี คนรับงานและดูแลมือปืนในพื้นที่ 4.นายธนภูมิ พรหมมาตร อายุ 37 ปี มือปืน 5.น.ส.พนิดา จุนเด็น อายุ 31 ปี แฟนสาวนายธนภูมิ มีเพียง นายธนภูมิ พรหมมาตร อายุ 37 ปี มือปืน ที่ให้การรับสารภาพ และนำชี้จุดเกิดเหตุอย่างละเอียดทุกขั้นตอนในการเตรียมจัดการกำนันกรรณิการ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดหนองคาย แต่ทุกอย่างไม่จบแค่นั้น เพราะ 1 ในผู้ต้องหาสำคัญคือ นายประสิทธิ์ อินทร์เนื่อง (คนรับงานและดูแลมือปืน) ซึ่งมีบ้านอยู่ที่ บ้านเสียว ต.หนองปลาปาก อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งในแวดวงนักพนันรู้ดีในฉายา “เสี่ยยุทธ” โดยเปิดทั้งร้านคาราโอเกะ และ “บ่อนมวยตู้” รวมทั้งการพนันอื่นๆในพื้นที่ บ้านเสียว โดยประวัติของ “เสี่ยยุทธ” ทุกคนรู้แต่ว่าเป็นคนมาจากภาคใต้ แต่ข้อเท็จจริงหนีคดีมาจากภาคใต้ มาชุบตัว ฟอกตัวที่ จ.หนองคาย โดยทำธุรกิจสีเทา ยันสีดำในพื้นที่ อ.ศรีเชียงใหม่ อ.โพธิ์ตาก และ อ.ท่าบ่อ ร่วมกับคนใน จ.หนองคาย ซึ่งคนใกล้ชิด “เสี่ยยุทธ” จะรู้ดีว่าจะไม่ให้ใครรู้ชื่อ นามสกุลจริง โดยใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่หลายสิบปี แต่พึ่ง “ทำบัตรประชาชน” เมื่อคดีที่ก่อไว้หมดอายุความ โดย “เสี่ยยุทธ” เป็นคน จ.สุราษฎร์ธานี บ้านเดียวกับ นายสามารถ ทิพยศักดิ์ อดีตกำนัน ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี และ นายสำริด สังข์สิงห์ โดย นายสามารถ เดินทางมาหนองคายเป็นประจำ และมาทุกครั้งต้องแวะไปดื่มกินที่บ่อนของ “เสี่ยยุทธ” โดยมีนักพนัน นักธุรกิจสีเทายันสีดำในพื้นที่หนองคาย ไปร่วมวง บางทีถึงขนาดจัด “ชกมวย” ในพื้นที่ โดยมีบรรดาเซียนมวย นักพนัน เข้าร่วมอย่างคึกคัก ซึ่งทุกคนในแวดวงนี้ต่างรู้จักดีในชื่อ “กำนันสามารถ” โดยมีนักพนันไม่กี่คนที่รู้ว่า “กำนันสามารถ” ไปแอบซื้อที่ (บุกรุกป่า) ไว้ในพื้นที่ ต.ผาตั้ง อ.สังคม ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสั่งฆ่ากำนันกรรณิการ์ ภายหลังจากผู้ต้องหาทั้งหมดถูกนำฝากขังที่ศาลหนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งรถที่ใช้นำมาร่วมในการก่อเหตุยิงกำนัน เป็นรถที่เสี่ยคนหนึ่งในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ ร่วมมือกับ “เสี่ยยุทธ” ในการรับจำนำรถทุกชนิดเมื่อนักพนันต้องการจำนำรถ และนำรถไปจอดไว้ตามบ้านลูกน้อง เครือข่าย และรถที่นำมาร่วมก่อเหตุก็เป็นรถที่ถูกนำมาจำนำไว้!!! โดยเสี่ย รายนี้มีภูมิลำเนาเป็นชาวท่าบ่อ ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนได้ถูกเจ้าหน้าที่บุกตรวจยึดรถที่รับจำนำไว้กลางเมืองท่าบ่อหลายสิบคัน...(แต่คดีเงียบ เหมือนมีการเคลียร์กัน) และเสี่ยคนนี้ได้ไปร่วมลงหุ้นกับ “เสี่ยยุทธ” ในการทำบ่อน รวมทั้งธุรกิจรับจำนำรถ และอื่นๆที่ไม่ใช่สีขาวแน่นอน และเสี่ยคนนี้ตอนนี้ถูกจับแล้ว...และรายอื่นๆกำลังถูกขยายผล การเสียชีวิตของ “กำนันเตี้ย” ไม่เพียงทำให้เรารู้ว่าขบวนการคนนอกพื้นที่ ที่มาอยู่ในพื้นที่หนองคาย มาร่วมกับอิทธิพลในพื้นที่ ในการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย คนเหล่านี้อยู่ไปนานๆเริ่มเติบโตขึ้น กล้าขึ้น กล้าแม้กระทั่งหาคนมายิงกำนัน ต.ผาตั้ง จนเสียชีวิต โดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ไม่เกรงกลัวว่าคนในพื้นที่จะรู้สึกอย่างไร...นั้นเพราะคนเหล่านี้คิดว่ากลุ่มตัวเองมีอิทธิพล จะทำอะไรกับใครก็ได้...ซึ่งเขาคิดผิด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานจริงจัง ชัดเจน และขยายผลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้รับรู้ว่าขบวนการที่จัดการกับกำนันกรรณิการ์ เกี่ยวพันไปในหลายเรื่องซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และทำให้เราได้เห็นว่า จ.หนองคาย ควรทำอย่างไรในการปัดกวาดบ้านเมือง และจัดการคนเหล่านี้อย่างชัดเจน เพราะเราปล่อยให้คนเหล่านี้เติบโต สร้างเครือข่ายอิทธิพล จนไม่เกรงกลัวกฎหมาย และสุดท้าย คือการสั่งตาย “กำนันกรรณิการ์” คนดีแห่ง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย.... ตั้งแต่วันที่กำนันกรรณิการ์ถูกยิงเสียชีวิต ผมพูดเสมอว่า “คนหนองคายไม่มีใครมาก่อเหตุยิงกันแบบนี้หรอก ต้องเป็นคนนอกพื้นที่เท่านั้น” และวันนี้ก็พิสูจน์ทุกอย่างแล้วว่าขบวนการสั่งตายกำนันกรรณิการ์มีใครบ้าง.... ภัทรวินทร์ ลีปาน ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ประจำจังหวัดหนองคาย รายงาน