นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า... กู้ซ่อนเงื่อนกับคำให้การเท็จ นักการเมืองที่ใกล้จะสูญเสีย มักจะทำได้ทุกอย่างแม้แต่คำให้การเท็จ ที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงปมปัญหา แต่จะพูดอยู่มุมเดียวที่ตนเองอยากพูด เพราะชี้แจงปัญหาไม่ได้ 1.วันที่ 19 มีนาคม 2562 คุณช่อไปพูดในรายการทีวีว่า พรรคกู้เงินนายธนาธร 250 ล้านบาท 2. วันที่ 5 เมษายน 2562 นายธนาธรพูดระหว่างการแถลงข่าวหลังการเลือกตั้ง ในงานอนาคตใหม่ไฟแรงเฟร่อ​! พรรคอนาคตใหม่กู้เงินตนเอง 90 ล้านบาท 3.วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 นายธนาธร ไปพูดที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ให้พรรคกู้เงิน 110 ล้านบาท 4.ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2562 นายธนาธรให้ปากคำกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของกกต.ว่าให้พรรคกู้ 161.2 ล้านบาท นายปิยบุตร และเหรัญญิกพรรคให้การตรงกันคือ 161.2 ล้านบาท 5.วันที่ 25 สิงหาคม 2562 นายธนาธรยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อปปช. ให้พรรคกู้เงิน 191.2 ล้านบาท โดยให้กู้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 2 มกราคม 2562 เงิน161.2 ล้านบาท และ 11 เมษายน 2562 เงิน 30 ล้านบาท เท่ากับนายธนาธร นายปิยบุตร และเหรัญญิกพรรค จงใจให้การเท็จกับคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของกกต. 6. วันที่ 17 ตุลาคม 2562 ประชุมอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งของกกต. มีอนุกรรมการหนึ่งท่าน ตรวจสอบรายงานบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นปปช.ของนายธนาธร พบพิรุธเงินกู้ 30 ล้านบาท ที่นายธนาธรไม่เคยกล่าวถึง จึงเป็นที่มาที่พรรคกู้เงิน 191.2 ล้าน ขนาดแค่ตัวเลขเงินกู้ ยังกล้าให้การเท็จกับประชาชน ยังไม่นับรวมให้การเท็จต่อกกต. ถามจริงๆว่า ตอนตื่นเช้ามาส่องกระจกเห็นหน้าตนเอง ไม่รู้สึกอายตัวเองบ้างเลยหรือว่า พวกเราช่างกล้าพูด กล้าทำ กล้าโกหกกับประชาชนได้ขนาดนี้เชียวหรือ บทสรุปที่ต้องติดตามคำตัดสินของศาล ไม่ใช่เพียงพรรคการเมืองกู้เงิน 191.2 ล้านบาทผิดหรือไม่ แต่ที่น่าติดตามคือ การกู้ซ่อนเงื่อนผิดหรือไม่?? #กู้ซ่อนเงื่อน??