วันที่ 19 ก.พ. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่บริษัท เชฟโรเลต (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศหยุดขายและปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทยว่า การประกาศหยุดกิจการของบริษัทดังกล่าว ย่อมมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการประกอบรถยนต์ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างประเทศต่อภาพลักษณ์การลงทุนในประเทศไทย อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อสภาวะทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และกลุ่มธุรกิจต่างๆ จำนวน 8 กลุ่ม คือ 1. นักธุรกิจผู้ประกอบกิจการโรงงานผลิตรถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่น ที่ต้องเลิกกิจการจากสภาวะการขาดทุน 2. คนงานในโรงงาน และพนักงานของบริษัทนี้ และคนงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องต้องตกงาน ไม่มีงานทำ เกิดอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 3. กลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ เพื่อส่งเป็นส่วนประกอบให้กับโรงงานผลิตรถยนต์เชฟโรเลต 4. โชว์รูมขายรถยนต์เชฟโรเลตต้องลดราคาขายลง 50% และปิดกิจการไปในที่สุด 5. บริษัทไฟแนนซ์ ยกเลิกการจัดเช่าซื้อรถยนต์ทั้งใหม่และเก่า และมูลค่ารถยนต์ในการจัดเช่าซื้อมีมูลค่าลดลง ธุรกิจเช่าซื้อประสบปัญหาขาดทุน 6. ตลาดรถยนต์เก่า หรือเต็นท์ขายรถยนต์มือสอง ที่มีสต๊อกรถยนต์เชฟโรเลตค้างอยู่ ราคาลดต่ำลง หรือไม่มีราคา และขายไม่ได้ 7. อู่ซ่อมรถยนต์ จะหาอะไหล่ในการซ่อมบำรุงรักษารถเก่ายากยิ่งขึ้น และ 8. ประชาชนผู้เป็นเจ้าของ หรือครอบครองรถยนต์เชฟโรเลต อยู่ในขณะนี้ ไม่สามารถขายรถต่อได้ เพราะรถมีมูลค่าลดลงหรือแทบจะไม่มีราคา และไม่เป็นที่ต้องการของตลาดรถยนต์ นายเทพไท กล่าวอีกว่า การประกาศหยุดกิจการของโรงงานผลิตรถยนต์เชฟโรเลต ในครั้งนี้ มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ ขยายเป็นวงกว้าง อยากให้รัฐบาลและผู้รับผิดชอบ เข้ามาศึกษาและแก้ปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ อีกในอนาคต