“บิ๊กตู่”บินมอบเงินเยียวยาเหยื่อ “จ่าคลั่ง” กราดยิงที่โคราชวันนี้ ด้าน “ผบ.เหล่าทัพ”ร่วมยืนไว้อาลัย “ผู้เสียชีวิต”-ผู้บาดเจ็บ1นาที ส่วน “บิ๊กแดง” เซ็นย้ายผู้พันเอี่ยวทุจริต ลั่น ใครทำอะไรไว้ ต้องรับผล ยัน ให้ความเป็นธรรม “มทภ.2” ไม่ใช่ เลือดเข้าตา สั่งย้ายหมด จ่อ ให้ กอ.รมน.แถลง สายตรงเรื่องร้องเรียน 18 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 18ก.พ.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุมนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นำคณะผู้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบเหตุความรุนแรงที่จังหวัดนครราชสีมา จากกระทรวงการคลังและธนาคารในสังกัดเข้าพบนายกฯเพื่อมอบเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ จำนวน 12 ล้าน บาทให้กับกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกฯ โดยนายกฯจะเป็นผู้มอบเงินเยียวยาด้วยตนเองในวันที่ 19 ก.พ.นี้ ที่จ.นครราชสีมา ขณะที่นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 19 ก.พ. นายกฯ จะเดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต จำนวน 27 คน ส่วนเงินเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ กองทุนได้โอนเงินให้กับทางจังหวัดเรียบร้อยแล้ว จำนวน 57 คน แต่ยังเหลืออีก 1 คนที่เป็นคู่กรณีจะต้องรอสืบสวนสอบสวนก่อน ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) วังเดิม ผู้สื่อข่าวรายงานวย่า ได้มีการประชุมคณะผู้บัญชาการทหาร และการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พร้อม ผบ.เหล่าทัพ ได้ร่วมยืนไว้อาลัย ต่อผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ จากเหตุความรุนแรงที่ จ.นครราชสีมา เป็นเวลา 1 นาที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยระหว่างรอการประชุม นั้นผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับทาง ทั้งนี้พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เปิดเผยว่า กำลังเซ็นคำสั่งปรับย้ายนายทหารระดับพันเอก ต่อหน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพราะใครทำอะไรไว้ ต้องได้รับผล ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวข้องในหลายส่วน ที่กำลังพลร้องเรียนมา โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 หลังเกิดเหตุรุนแรง เมื่อถามว่า ในส่วน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 ถูกปรับย้ายด้วยหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรม เป็นกรณีไป ไม่ใช่เลือดเข้าตา ก็จะสั่งย้ายหมด เมื่อถามว่า การตั้งศูนย์ร้องเรียนสายตรงมายัง ผบ.ทบ.จะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เราให้ทางภาคเอกชนมาดำเนินการ (เอาท์ซอร์ซ) ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล ขนาดหน้าห้องตนยังไม่รู้เรื่องเลย ส่วนการพิจารณาว่า ข้อร้องเรียนไหนเป็นเรื่องจริง หรือใส่ร้าย ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ฟังดูก็รู้แล้วว่าอะไรเท็จ อะไรจริง โดยในวันที่ 19 ก.พ.นี้จะให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงรายละเอียด ส่วนการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ในโครงการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจของกองทัพบก ร่วมกับกรมธนารักษ์ กว่า 40 รายการนั้น ทุกอย่างดำเนินการตามลำดับ ไม่ได้ขีดเส้นหรือกำหนดกรอบเวลาแต่อย่างใด เมื่อถามถึงกรณีที่มีนักกฎหมายแนะนำญาติผู้เสียหาย ฟ้องร้องกองทัพ และ ผบ.ทบ. พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า การก่อเหตุเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่คำสั่งกองทัพ หากทหารมีเรื่องกับทหาร ต้องขึ้นศาลทหาร แต่ถ้าหาก ทหารมีเรื่องกับพลเรือน ต้องขึ้นศาลพลเรือน ต้องแยกให้ออก