จากรายงาน Asia Travel & Hospitality Outlook 2020 ของ STR ระบุว่า ธุรกิจโรงแรมในเมืองทั่วภูมิภาคเอเชียได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 รวมถึงกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนลดลงเช่นกัน โดย RevPAR หรือรายได้ต่อห้องพักทั้งหมดของโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ ตกลงไปอยู่ที่ -6% แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า หลังจากวิกฤตผ่านพ้นไปจะสามารถฟื้นตัวเต็มที่ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไปโดยธุรกิจโรงแรมจะกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยจะมีนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลเข้ามาในเอเชียสูงถึงกว่า 90 ล้านคน มั่นใจศักยภาพกรุงเทพฯ ซึ่งทาง นายแพทย์ก่อเกียรติ กิตติสุวรรณ เจ้าของโรงแรมวิลล่า เดอ พระนคร กล่าวว่า ได้เปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่นี้ใจกลางย่านสามยอด สไตล์บูติคระดับลักซ์ชัวรี่ บริหารโดยยูนิคอร์น ฮอทพิทัลลิตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานโรงแรมบูติคแนวสมัยใหม่ เนื่องจากมั่นใจศักยภาพของกรุงเทพฯ ที่เป็นเมืองอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งมีธุรกิจโรงแรม และท่องเที่ยวยังเติบโตได้หลังจากผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ อีกทั้งด้วยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการหาที่พักมาเติมเต็มประสบการณ์มากกว่าเพียงพักอาศัย ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการเติบโตของแบรนด์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร เพราะสามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย มีจุดเด่นที่แตกต่าง ทำให้เป็นโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจจากนักท่องเที่ยว "การลงทุนครั้งนี้เป็นการก้าวเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมเป็นครั้งแรก ด้วยเล็งเห็นศักยภาพของทำเลที่ตั้งของโรงแรมในย่านสามยอด ซึ่งเป็นทำเลท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิตท้องถิ่นของคนไทย-จีน รวมถึงอาหารขึ้นชื่อที่ตั้งอยู่รายล้อม จึงพัฒนาอาคารที่เป็นมรดกตกทอดมากว่า 100 ปีให้กลายเป็นโรงแรมหรู เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการระดับห้าดาว" นายแพทย์ก่อเกียรติ กล่าว ทำห้องอาหารสร้างรายได้ อย่างไรก็ตาม นายแพทย์ก่อเกียรติ กล่าวต่อว่า ราคาห้องพักเริ่มต้นของโรงแรมวิลล่า เดอ พระนคร ในช่วงเปิดตัวเริ่มต้นที่ 4,300 - 11,000 บาท และอาจจะขยับขึ้น 20-30% ภายใน 1-2 ปี โดยตั้งเป้าอัตราการเข้าพักไว้ที่ 60-70% ใน 6 เดือน ถึงหนึ่งปีแรก โดยกลุ่มลูกค้าจะมุ่งเจาะไปที่ ชาวยุโรป สแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย และเอเชีย ในกลุ่มระดับกลาง ถึงบนขึ้นไป รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ยังเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งหลังจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 สิ้นสุดลง จะเดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ อาทิ การออกโรดโชว์ การออกบูธ ในต่างประเทศ และการออกแพ็คเกจต่าง ๆ นอกจากนั้นจะพัฒนาห้องอาหารสำราญราษฏร์ ให้เป็นร้านอาหารเอเชีย เพื่อสร้างรายได้คู่ขนานกับห้องพัก รองรับลูกค้าที่เข้าพักและเป็นแหล่งกินดื่มของคนไทยและนักท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย พร้อมกันนี้ นายแพทย์ก่อเกียรติ ยังกล่าวถึงผลกระทบของธุรกิจโรงแรมจากสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ว่า ในช่วงเริ่มต้นอาจจะได้รับผลกระทบบ้างจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของประเทศไทยและกรุงเทพฯ แต่นอกจากนักท่องเที่ยวจีนแล้ว ทางโรงแรมฯ ยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยอีกหลากหลายประเทศด้วยกัน คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท คาร์ลตันแห่งแรกในไทย ด้าน นายมาร์ค บุลเมอร์ ผู้จัดการทั่วไป ของโรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท โรงแรมในเครือคาร์ลตันจากสิงคโปร์แห่งแรกในไทย กล่าวว่า โรงแรมดังกล่าวเป็นโรงแรมคาร์ลตันแห่งแรกนอกประเทศสิงคโปร์ และแห่งแรกของเมืองไทย เป็นอาคาร 34 ชั้น บนถนนสุขุมวิทระหว่างซอย 27 และซอย 29 โดยมีห้องพักทั้งหมด 338 ห้อง 8 รูปแบบ โดยห้องขนาดมาตรฐานเริ่มต้นที่ 37 ตารางเมตร และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทุกห้อง นอกจากนั้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ทั้งห้องประชุมและห้องจัดเลี้ยงที่มีเนื้อที่กว่า 1,200 ตารางเมตร ทั้งห้อง บอลล์รูมที่เหมาะสำหรับการ ประชุมขนาดเล็กไปจนถึงงานเลี้ยงขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับแขกได้มากถึง 600 คน รวมถึงสระว่ายน้ำ พื้นที่เล่นสำหรับเด็ก ศูนย์ออกกำลังกาย สปา รวมถึงห้องอาหาร วาห์ล็อก ร้านอาหารจีนสไตล์ กวางตุ้งที่เป็นตำนานของคาร์ลตัน และมีชื่อเสียงโด่งดังในสิงคโปร์มานานกว่า 30 ปี โดย โรงแรม แห่งนี้จะสามารถดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวและกลุ่มนักธุรกิจที่เดินทางมากรุงเทพฯได้ด้วยห้องประชุมขนาดใหญ่ที่พร้อมตอบทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่งานประชุมสัมมนา งานแต่งงาน งานเลี้ยงสังสรรค์ รวมถึงห้องอาหารและบาร์ถึง 5 ห้อง สำหรับแขกโรงแรมและลูกค้าในกรุงเทพฯ โดยเปิด ให้จองห้องพักล่วงหน้าสำหรับการเข้าพัก ในเดือนมีนาคม 2563 ด้วยข้อเสนอพิเศษส่วนลด 15% สำหรับห้องพักทุก ประเภท พร้อมบริการอาหารเช้าฟรีทุกวัน ตลอดระยะเวลาเข้าพัก และส่วนลด 20% สำหรับอาหารและเครื่องดื่มในทุกห้องอาหาร (ยกเว้นร้านอาหารวาห์ล็อก ) จองได้ตั้งแต่วันนี้-วันที่ 31 มีนาคม 2563 สำหรับการเข้าพักภายในวันที่ 1-31 มีนาคม 2563 นี้