"จุรินทร์" สั่ง 11 ข้อขับเคลื่อนหนัก!! การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย รุกช่วยผู้ประกอบการ 5 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมให้คืบหน้าทุกเรื่อง เมื่อวันที่ 16 ก.พ. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ร่วมด้วยพร้อมผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน หลังการประชุม ณ โรงแรมอิมพิเรียล จังหวัดนราธิวาส นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการเร่งรัดก่อสร้างถนนเชื่อมโยงระหว่างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่กับด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย เสนอโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทยโดยเป็นมติที่ประชุม คือ 1.จุดเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่ได้ข้อยุติแล้ว ขั้นต่อไปคือกำลังสำรวจและออกแบบถนนร่วมกันโดยกรมทางหลวง คาดว่าจะแล้วเสร็จต้นเดือนมีนาคม ความยาวประมาณ 1 กม. งบประมาณประมาณ 140 ล้านบาท และคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคจะประชุมเพื่อเห็นชอบจุดเชื่อมดังกล่าวภายในเดือนเมษายนนี้ ถ้าได้รับจัดสรรงบประมาณ จะก่อสร้างเสร็จภายใน 1 ปี แต่สามารถเปิดด่านสะเดาแห่งใหม่ได้ภายในตุลาคมนี้ โดยเชิญรถขนส่งสินค้าเข้ามาใช้บริการก่อน 2.ด้านการเร่งรัดการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย และร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารทางถนนข้ามพรมแดนไทย-มาเลเซีย จะสามารถลงนาม MOU ได้ในอีกประมาณ 4 เดือน โดยไทยได้ส่งร่าง MOU ให้มาเลเซียพิจารณาแล้ว และมาเลเซ๊ยจะตอบกลับมาภายในมีนาคมนี้ และจะเสนอ ครม เห็นชอบ จากนั้นจะสามารถลงนามได้ทันที โดยสินค้าไทยสามารถข้ามพรมแดนส่งไปถึงสิงคโปร์ได้ 3.การเปิดด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม 24 ชั่วโมง จากนี้ไทยและมาเลเซียจะร่วมกันประเมินผลความคุ้มค่าของการขยายเวลาเปิดด่านภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเสนอ ครม. พิจารณาขยายเวลาต่อไปหรือไม่ ซึ่งประโยชน์ ที่เห็นชัดคือความรวดเร็วของการขนส่ง 4.การเร่งรัดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ณ อำเภอสุไหงโก-ลก แห่งที่ 2(สุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง) ได้มอบ ศอ.บค.เป็นเจ้าภาพในการติดตามความคืบหน้า 5.การเร่งรัดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก ณ อำเภอตากใบ (ตากใบ-เปิงกาลันกุโบร์) โดยเร่งสร้างแพขนานยนต์อันใหม่ให้เสร็จสิ้นและให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีการตั้งงบประมาณไว้แล้ว 39 ล้านบาท โดย อบจ.นราธิวาส มอบ ศอ.บต.เร่งรัดติดตามความคืบหน้าต่อไป และสำหรับด่านบูเก๊ะตา ที่มีปัญหาในความไม่พร้อมของสถานที่ทำงานของหน่วยงาน 7 หน่วยงาน ที่ประชุมมอบศอ บตเป็นเจ้าภาพเชิญหน่วยงาน 9 หน่วยหารือ เพื่อทำให้ด่านบูเก๊ะตาใช้คอนเทนเนอร์ทำงานชั่วคราว เพื่อเร่งอำนวยความสะดวก ผปก. ให้เร็วที่สุด และหาข้อสรุปภายในสองสัปดาห์ และรองนายกฯ จะเดินทางลงมาติดตามความคืบหน้าในปลายเดือนมีนาคมนี้ 6.โครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ที่ประชุมเห็นชอบนโยบายให้สร้างรถไฟทางคู่ทั้งจาก กทม. ลงไป และสร้างจากสุไหงโกลกขึ้นมา พร้อมกันทีเดียว โดบ ศอ.บต. จะติดตามเรื่องนี้ และจะตั้งงบและเริ่มต้นศึกษาการสร้างรถไฟรางคู่ เส้นทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ในปี 64 7.การลดขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารทางพิธีการศุลกากร ณ ด่านชายแดน โดยที่ประชุมมอบ ศอ.บต. เร่งรัดการจัดการลดอุปสรรคสำหรับยานพาหนะส่วนบุคคล ที่ต้องกรอกทั้งใบสำแดงสินค้าของกรมศุลกากรและใบ ตม.2 และ 3 (Border pass) ขอให้ลดขั้นตอนให้เหลือขั้นตอนเดียว ซึ่งจากการหารือเบื้องต้น พบว่าสามารถทำได้ 8.การดำเนินโครงการเมืองยางพารา (Rubber City) โดยมีความคืบหน้าว่ามิชลินซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่จะซื้อน้ำยางสดได้หนึ่งแสนตันในปี 63 นี้ หลังจาก กนอ ตกลงไปช่วยสนับสนุนการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ให้มิชลินสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ นอกจากนี้ กนอ จะลดค่าเช่าให้ SMEs เหลือตร ม ละ 20 บาท จาก 150 บาท เพื่อจูงใจให้มีการลงทุนเพิ่มขึ้น 9.โครงการพัฒนาท่าเทียบเรือโดยสารขนาดใหญ่ (Cruise) ที่ฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ในเรื่องนี้ กรมเจ้าท่าทำการศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างสรุปรูปแบบการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ของทั้ง 2 แห่งคือ สมุย และภูเก็ต เพื่อเสนอ ครม ในเดือนสิงหาคม ปี 2564 และระหว่าง ตค 64 และ กย 65 จะคัดเลือกผู้ร่วมทุน และทำรายงาน EIA กำหนดการก่อสร้างแล้วเสร็จปีปี 2569 เปิดบริการปี 2570 10.การส่งเสริมการตลาดสินค้าศักยภาพ 247 รายการของ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้งในประเทศและส่งออก ได้มอบกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หาทางช่วยเหลือส่งเสริมผู้ประกอบการขายออนไลน์และอื่นๆ รวมทั้งการเจรจากับบริษัทไปรษณีย์ไทยในการให้สร้างโปรโมชั่นพิเศษกับภาคเอกชนในการขนส่ง และจะขอข้อสรุปเรื่องนี้ตอนลงมาดูด่านบูเก๊ะตาในเดือนมีนาคม2563 นี้ 11.กรณีไม่สามารถส่งออกนมและแป้งข้าวเจ้าไปมาเลเซียได้นั้น ได้มอบหมายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ให้นำเข้าที่ประขุม JTC คณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มาเลเซีย ครั้งหน้าต่อไป