ชาวบ้านบุกแจ้งความให้ตรวจสอบเอาผิด อบต. หลังจากให้เจ้าหน้าที่ที่ดินเข้าไปรังวัดแนวเขตเพื่อทำโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินทำกินของชาวบ้าน 16 ราย โดยไม่ได้รับความยินยอม ทั้งตั้งข้อสังเกตุเลือกปฏิบัติฝั่งซ้ายวัดล้ำกินเข้าไปลึกถึง 2 เมตรแต่อีกฝั่งแค่ 1 เมตร
วันนี้(15 ก.พ.63) ส.อ.กิตติอนันท์ ชนัตย์ธรรมโชติ อายุ 58 ปี , นายพงศกร ทองอินทร์ อายุ 23 ปี และนางเลย ทองอินทร์ อายุ 64 ปี ชาวบ้านบ้านสนามชัย ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐานโฉนดที่ดิน และภาพถ่ายทางอากาศ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.ชาญชัย คำดีเกิด พนักงานสอบสวน สภ.สตึก ให้ตรวจสอบเอาผิดกับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)สนามชัย อ.สตึก โดยผู้ร้อง อ้างว่า ทาง อบต.สนามชัย ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ สาขาสตึก เข้าไปทำการรังวัดแนวเขตถนนเส้นทางบ้านสนามชัย ไปบ้านหนองแคน ระยะทางยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร เพื่อทำโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีต แต่หลังจากเจ้าหน้าที่รังวัดปักหลักหมุดแสดงแนวเขตแล้ว พบว่า มีการรุกล้ำเข้าไปในที่ดินทำกินของชาวบ้านที่มีโฉนดถูกต้องจำนวน 16 ราย โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ยินยอมทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้นำเอกสารหลักฐานเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ แต่บางรายก็ไม่กล้ามาแจ้งความเพราะกลัวมีปัญหากับทาง อบต.
ส.อ.กิตติอนันท์ ชนัตย์ธรรมโชติ กล่าวว่า ทาง อบต.ให้เจ้าหน้าที่ที่ดินมาทำการรังวัดแนวเขตถนนเพื่อทำโครงการสร้างถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน โดยไม่แจ้งให้ชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและมีเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมายได้รับทราบ ทั้งได้มีการรังวัดปักหลักเขตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินชาวบ้าน โดยเฉพาะของตนเองถึง 2.5 เมตร ความยาวประมาณ 600 เมตร ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งตนเองเห็นด้วยกับการทำถนนคอนกรีตเพื่อให้ชาวบ้านสัญจรไปมาด้วยความสะดวก แต่มองว่าความกว้างของถนนเดิมที่สัญจรอยู่ปัจจุบันนี้ก็เพียงพอสามารถทำถนนคอนกรีตได้ 2 เลนวิ่งสวนไปมาได้สะดวกแล้ว ไม่จำเป็นต้องขยายเข้าไปกินพื้นที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาก อบต.ดำเนินการไม่ถูกต้องก็ให้ว่ากันไปตากฎหมาย
ด้านนายพงศกร ทองอินทร์ บอกว่า ตนเองไม่ได้คัดค้านการทำถนนคอนกรีต แต่ไม่เห็นด้วยกับการรังวัดแนวเขตที่ดินโดยไม่แจ้งให้ทราบและรุกล้ำเข้าไปในที่ทำกินได้รับความเสียหาย ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าการรังวัดแนวเขตครั้งนี้ มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่เพราะฝั่งซ้ายถูกวัดรุกล้ำกินพื้นที่ไปถึง 2 เมตร แต่ฝั่งขวาล้ำเพียง 1 เมตรหากยึดจากแนวถนนเดิม จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่า อบต.ดำเนินการไม่ถูกต้องสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
วันนี้(15 ก.พ.63) ส.อ.กิตติอนันท์ ชนัตย์ธรรมโชติ อายุ 58 ปี , นายพงศกร ทองอินทร์ อายุ 23 ปี และนางเลย ทองอินทร์ อายุ 64 ปี ชาวบ้านบ้านสนามชัย ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐานโฉนดที่ดิน และภาพถ่ายทางอากาศ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต.ชาญชัย คำดีเกิด พนักงานสอบสวน สภ.สตึก ให้ตรวจสอบเอาผิดกับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)สนามชัย อ.สตึก โดยผู้ร้อง อ้างว่า ทาง อบต.สนามชัย ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ สาขาสตึก เข้าไปทำการรังวัดแนวเขตถนนเส้นทางบ้านสนามชัย ไปบ้านหนองแคน ระยะทางยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร เพื่อทำโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีต แต่หลังจากเจ้าหน้าที่รังวัดปักหลักหมุดแสดงแนวเขตแล้ว พบว่า มีการรุกล้ำเข้าไปในที่ดินทำกินของชาวบ้านที่มีโฉนดถูกต้องจำนวน 16 ราย โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ยินยอมทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้นำเอกสารหลักฐานเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ แต่บางรายก็ไม่กล้ามาแจ้งความเพราะกลัวมีปัญหากับทาง อบต.
ส.อ.กิตติอนันท์ ชนัตย์ธรรมโชติ กล่าวว่า ทาง อบต.ให้เจ้าหน้าที่ที่ดินมาทำการรังวัดแนวเขตถนนเพื่อทำโครงการสร้างถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน โดยไม่แจ้งให้ชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินและมีเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมายได้รับทราบ ทั้งได้มีการรังวัดปักหลักเขตรุกล้ำเข้าไปในที่ดินชาวบ้าน โดยเฉพาะของตนเองถึง 2.5 เมตร ความยาวประมาณ 600 เมตร ทำให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งตนเองเห็นด้วยกับการทำถนนคอนกรีตเพื่อให้ชาวบ้านสัญจรไปมาด้วยความสะดวก แต่มองว่าความกว้างของถนนเดิมที่สัญจรอยู่ปัจจุบันนี้ก็เพียงพอสามารถทำถนนคอนกรีตได้ 2 เลนวิ่งสวนไปมาได้สะดวกแล้ว ไม่จำเป็นต้องขยายเข้าไปกินพื้นที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาก อบต.ดำเนินการไม่ถูกต้องก็ให้ว่ากันไปตากฎหมาย
ด้านนายพงศกร ทองอินทร์ บอกว่า ตนเองไม่ได้คัดค้านการทำถนนคอนกรีต แต่ไม่เห็นด้วยกับการรังวัดแนวเขตที่ดินโดยไม่แจ้งให้ทราบและรุกล้ำเข้าไปในที่ทำกินได้รับความเสียหาย ทั้งยังตั้งข้อสังเกตว่าการรังวัดแนวเขตครั้งนี้ มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่เพราะฝั่งซ้ายถูกวัดรุกล้ำกินพื้นที่ไปถึง 2 เมตร แต่ฝั่งขวาล้ำเพียง 1 เมตรหากยึดจากแนวถนนเดิม จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากพบว่า อบต.ดำเนินการไม่ถูกต้องสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย