“มนัญญา” ตรวจเยี่ยมการผลิตสัตว์น้ำอินทรีย์ สหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช ชูเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ พร้อมเป็นช่องทางจัดจำหน่ายทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการผลิตสัตว์น้ำอินทรีย์สหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด โดยมีนายชาตรี เกตุเรน สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ สมาชิกสหกรณ์ฯ ให้การต้อนรับ และนายอาทิตย์ มุสิกวงศ์ ประธานสหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด กล่าวรายงาน ณ นิคมสหกรณ์ปากพญา ตำบลปากนคร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ตามที่นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนและให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ รวมถึงการ ผลิตสัตว์น้ำอินทรีย์ โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้บูรณาการร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดตั้งสหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช ในรูปแบบการเช่าที่ดิน เพื่อส่งเสริมและปรับปรุงพื้นที่ให้เกษตรกรได้มีที่ดินในการประกอบอาชีพ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ร่วมกับสหกรณ์ได้เริ่มดำเนินการแนะนำส่งเสริมสมาชิกให้ปรับเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงสัตว์น้ำแบบธรรมชาติ Good Agricultural Practice (GAP) ซึ่งเป็นไปตามหลักการสากล เพื่อใช้เป็นมาตรฐานการผลิตเพื่อรองรับความต้องการของตลาดและผู้บริโภค "ในวันนี้ทางประมงจังหวัดนครศรีธรรมราชได้นำ พันธุ์ลูกปูทะเล (ปูดำ) มาร่วมปล่อยลงสู่ แปลงเลี้ยงสัตว์น้ำ ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ดีสำหรับกระบวนการผลิตสัตว์น้ำอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ทางกระทรวงเกษตรฯ พร้อมขับเคลื่อนรูปแบบการตลาดนำการผลิต ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ไม่พึ่งพาคนกลาง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับเกษตรกร โดยปัจจุบันกระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการจัดตั้ง ซุปเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ เพื่อเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคอินทรีย์ อาทิ ข้าว ไข่ไก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อวัว ผลิตภัณฑ์สินค้าประมงแปรรูป เป็นต้น ซึ่งเป็นสินค้าของเครือข่ายสมาชิกสหกรณ์ทั่วประเทศ "รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว ทั้งนี้ สหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด ได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นสหกรณ์ ประเภทสหกรณ์นิคม เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2518 โดยรวบรวมเกษตรกร จำนวน 129 ราย ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าครอบครอง (เช่า) ทำประโยชน์ในที่ดินป่าเลน ปากพญา-ปากนคร ซึ่งสหกรณ์ฯ ได้ดำเนินการส่งเสริมให้สมาชิกผลิตสัตว์น้ำอินทรีย์ ได้แก่ กุ้ง ปู ปลา ซึ่งสมาชิกที่เลี้ยงปูทะเล จำนวน 139 ราย ได้รับการรับรอง GAP มีพื้นที่ผลิตประมาณ 3,000 ไร่ และได้รับการรับรองการผลิตสัตว์น้ำอินทรีย์ (กุ้ง ปู ปลา) แบบมีส่วนร่วม PGS หรือ Participatory Guarantee System จำนวน 45 แปลง พื้นที่การผลิต 1,444 ไร่ นอกจากนี้สหกรณ์ฯ ยังเน้นส่งเสริมให้สมาชิกทำประมงแบบธรรมชาติ โดยเลี้ยงรวมกันไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงกุ้ง ปลา และปู และใช้วิธีการจับแบบดั้งเดิม เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดกับระบบนิเวศ เนื่องจากพื้นที่ในการเลี้ยงส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลน ดังนั้น การส่งเสริมให้เลี้ยงสัตว์น้ำอินทรีย์จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับสมาชิกทุกคน อีกทั้งการได้รับสนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ยังสามารถช่วยให้สมาชิกลดต้นทุนในการผลิต และมีกำลังใจในการทำแบบอินทรีย์ รวมถึงมีตลาดรองรับที่ชัดเจน มีรายได้ที่แน่นอน ส่งผลให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกเหนือจากการส่งเสริมอาชีพแล้ว สหกรณ์ฯ ยังดำเนินธุรกิจอีกหลายด้าน ประกอบด้วย ธุรกิจรับฝากเงิน ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย ธุรกิจสินเชื่อ และธุรกิจรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกอีกด้วย