เสร็จสิ้นลงไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ประมาณ 2563 ในวาระ 2-3 เป็นรอบที่ 2 แม้จะทุลักทุเล อยู่บ้าง ด้วยเหตุที่เกิดปัญหาขึ้นกลางสภาฯ จนถึงขั้นที่ต้องมีการลงมติกันถึง 2รอบในการประชุมที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน แต่ที่สุดแล้ว ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ก็ผ่านฉลุย ไปด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 257 ต่อ 1 เสียง และแม้ปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเริ่มของการเริ่มต้นการประชุมในช่วงเช้าพบว่า เสียงในที่ประชุม หวุดหวิดจะไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ “จำนวนสมาชิกที่มีอยู่” ก็ตาม ทว่าท้ายที่สุด ด้วยปฏิบัติการ “เจรจา” ของ “มือทำงาน” ของฝ่ายรัฐบาลเองที่ดึงเกมกลับมาเป็นฝ่ายเหนือกว่า ส่งผลให้ร่างกฎหมายงบประมาณ ผ่านที่ประชุมสภาฯ ไปได้ในที่สุด มิหนำซ้ำผลจากการลงคะแนนในวาระที่ 3 ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 257 ต่อ1 เสียง และงดออกเสียง 3 เสียงนั้น พบว่า 1 เสียงที่ลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในวาระ 3 คือ “นิรามาน สุไลมาน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ แน่นอนว่า นิรามาน จะไม่ถูกจับตา และตั้งคำถามใดๆ หาก “วิปฝ่ายค้าน” ไม่มีมติกันออกมาแล้วว่าจะไม่มีการเข้าร่วมประชุมและลงมติในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ แต่อย่างใด ต่อมาจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง นิรามาน ออกมาแถลงข่าวกับสื่อ ว่า ตนเองต้องการสร้างสีสันเท่านั้น “ ผมยังอยู่ฝ่ายค้านเหมือนเดิมทั้งตัวและใจ ส่วนจะถูกมองว่าเป็นงูเห่าหรือไม่นั้น ยืนยันว่า ให้เงินเป็น100ล้านบาทก็ไม่ไป เพราะผมเติบโตมาจากบ้านหลังนี้ และจะไม่มีการทำร้ายพรรคอนาคตใหม่อย่างแน่นอน”(13 ก.พ.2563) ไม่เพียงเท่านี้ แต่ในวาระการประชุมสภาฯเพื่อลงมติผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 63 ครั้งนี้ ยังกลายเป็นการตอกย้ำ ถึงท่าทีของ “อนุมัติ ซูสารอ” ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ว่าเลือกที่จะเปลี่ยนสถานะ ทางการเมืองของตนเองอย่างไร เพราะอนุมัติ ได้ลงมติเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ทั้งที่พรรคประชาชาติ คือหนึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ต้องปฏิบัติตาม “มติวิปฝ่ายค้าน” ด้วยการงดเข้าร่วมการประชุม และงดออกเสียงลงมติ อีกทั้งในวันเดียวกัน “สุพจน์ อาวาส” โฆษกพรรคประชาชาติ เพิ่งออกมาให้ข่าวกับสื่อ ว่าพรรคได้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนอนุมัติแล้ว ในฐานะที่ทำตัวเป็นเหมือน “งูเห่า” ทั้งเคยยกมือโหวตสวนมติฝ่ายค้าน ในการลงมติญัตติขอตั้งกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบ คสช.และ มาตรา 44 รวมทั้งล่าสุดอนุมัติยังไปปรากฎร่วมงานเลี้ยงส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมาชนิดที่ไม่เกรงใจ “หัวหน้าพรรค” ที่ชื่อ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” แต่อย่างใด ! ทั้งอนุมัติและนิรามาน จะเป็น “งูเห่า” เป็นกลุ่มต่อไปหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่กำลังสะท้อนจากการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 63 และลงมติในวาระ 2-3 ที่เพิ่งจบลงครั้งนี้ ได้ชี้ให้เห็นถึง “ปัญหา” และ “แต้มต่อ” ในคราวเดียวกัน โดยเป็นปัญหาที่ “ผู้จัดการรัฐบาล” คือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะ “ประธานยุทธศาสตร์พรรค” ต้องเร่งแก้ไข พลิกเกมกลับให้พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาลเป็นฝ่ายถือแต้มต่อให้ได้ โดยเฉพาะปัญหา “องค์ประชุม” โดยเฉพาะในยามที่รัฐบาลต้องใช้ “เสียงโหวต” เพื่อลงมติ “ไว้วางใจ” ทั้ง “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับอีก “5รัฐมนตรี” ซึ่งหมายรวมถึงตัวพล.อ.ประวิตร เองด้วยนั้น จะต้องไม่เกิดความผิดพลาดหรือคะแนนเสียง อยู่ในสถานการณ์ที่ต้อง “ลุ้นระทึก” ขณะเดียวกันใช่ว่า รัฐบาลจะอยู่ในสภาพที่เป็นรองไปเสียทุกประตู โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดตัว งูเห่าจากพรรคประชาชาติและพรรคอนาคตใหม่กันออกมาเบื้องต้นเช่นนี้ ยิ่งเหมือนเป็นการ “ส่งสัญญาณ” ให้ฝ่ายค้านได้เห็นแล้วว่า ในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในวันที่ 24-26 ก.พ.นี้ “งูเห่า” ที่จะเปิดหน้า ปรากฎตัว ให้ “ฝ่ายค้าน” ได้ช้ำใจนั้นอาจจะมีมากหลายสิบคน !! มีรายงานว่าจากการพูดคุยกันมาพักใหญ่ระหว่าง “แกนนำ”พรรคพลังประชารัฐ กับส.ส.พรรคฝ่ายค้าน มีตัวเลข งูเห่าที่เตรียมยกมือโหวตสนับสนุน ลงมติให้กับพล.อ.ประยุทธ์ และอีก 5 รัฐมนตรี ด้วยกันถึง 20 ส.ส. ยิ่งเมื่อเวลานี้เกิด “ข่าวร้าย” ว่าพรรคอนาคตใหม่ อาจจะต้องถึงขั้น “หมดอนาคต” หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ “ยุบพรรค” ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ เมื่อถึงเวลานั้น เชื่อว่ายังมีส.ส.จากฝ่ายค้าน จำนวนไม่น้อย ที่อยากแปลงร่างเป็น “งูเห่า” มาอยู่ในฟาร์มของรัฐบาลเพื่อให้ “พี่ใหญ่” อย่าง บิ๊กป้อม ช่วยดูแล !