เกิดเหตุสลด รถเก๋งข้ามเลนพุ่งชนรถเทศบาลต.ทะเมนชัย กับกระบะอีก 2 คัน ที่ขับตามกันมารวม 4 คันรวด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย และบาดเจ็บสาหัส 3 ราย
เมื่อเวลา 16.30 น. (13 ก.พ.63) ร.ต.อ.ไชยรัตน์ วงศ์ศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 4 คัน บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 226 สายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถาน(จุดลำปลายมาศ) หน่วยกู้ชีพ เทศบาลตำบลลำปลายมาศ และหน่วยกู้ชีพ อบต.หนองบัวโคก รีบรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสี่เลนอยู่ระหว่างถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 226 สายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 97 พบรถยนต์จำนวน 4 คัน กระจายเกลื่อนถนน และมีผู้บาดเจ็บ โดยรถยนต์เก๋ง สีดำ ยี่ห้อ ฮอนด้า ทะเบียน 5กท7536 กรุงเทพมหานคร จอดขวางลำอยู่กลางถนนในสภาพตัวเก๋งยุบพังเสียหายทั้งคัน ชิ้นส่วนกระจาย เครื่องยนต์และชุดล้อหน้าหลุดกระเด็นไปอีกฟากของถนนและมีไฟลุกไหม้ ใกล้ตัวรถพบร่าง นายนพรัตน์ แฉ่งใจ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/27 ม.3 แขวงมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งกระเด็นออกนอกตัวรถเก๋ง
ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์ 4 ประตู สีฟ้า ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน กข7838 บุรีรัมย์ เป็นรถยนต์ของเทศบาลตำบลทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ พลิกคว่ำหงายล้อชี้ฟ้า ภายในรถพบนายวรวุธ ซึ่งเป็นคนขับ และเป็นพนักงานของเทศมบาลตำบลทะเมนชัย ร่างถูกรถทับอัดก็อปปี้ติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างที่เสียชีวิตแล้วออกมา และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถอีก 1 ราย คือ นางสาวนิตยา ตำแหน่งนักวิชาการการคลังชำนาญการ ทำงานอยู่เทศบาลตำบลทะเมนชัย
นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์ กระบะสีบรอนซ์ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ยต940 นครราชสีมา กับรถยนต์ สีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บพ 4985 ขอนแก่น อยู่ในสภาพเบียดกัน ตกอยู่ไหล่ทางถนน โดยมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนช่วยนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่ง รพ.ลำปลายมาศ
สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า รถยนต์ของเทศบาลตำบลทะเมนชัย กับรถยนต์กระบะอีก 2 คัน ได้ขับมาจากตัว อ.ลำปลายมาศ พอมาถึงที่เกิดเหตุ รถยนต์เก๋ง สีดำ ที่ขับสวนทางมาจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ขับแซงรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า แล้วเกิดเสียพุ่งข้ามเลนมาชนประสานงานเข้าอย่างจังกับรถเทศบาลตำบลทะเมนชัย ที่วิ่งสวนทางมาจนเสียหลักพลิกคว่ำ รวมถึงรถยนต์ที่วิ่งตามรถยนต์เทศบาลตำบลทะเมนชัย อีก 2 คันเกิดเสียหลักเบียดกันตกไหล่ทางด้วย ซึ่งตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ และตรวจหาหลักฐานอื่นที่พบในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ที่แท้จริงต่อไป
ที่เกิดเหตุเป็นถนนสี่เลนอยู่ระหว่างถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 226 สายบุรีรัมย์-ลำปลายมาศ ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 97 พบรถยนต์จำนวน 4 คัน กระจายเกลื่อนถนน และมีผู้บาดเจ็บ โดยรถยนต์เก๋ง สีดำ ยี่ห้อ ฮอนด้า ทะเบียน 5กท7536 กรุงเทพมหานคร จอดขวางลำอยู่กลางถนนในสภาพตัวเก๋งยุบพังเสียหายทั้งคัน ชิ้นส่วนกระจาย เครื่องยนต์และชุดล้อหน้าหลุดกระเด็นไปอีกฟากของถนนและมีไฟลุกไหม้ ใกล้ตัวรถพบร่าง นายนพรัตน์ แฉ่งใจ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/27 ม.3 แขวงมีนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งกระเด็นออกนอกตัวรถเก๋ง
ส่วนคู่กรณีเป็นรถยนต์ 4 ประตู สีฟ้า ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน กข7838 บุรีรัมย์ เป็นรถยนต์ของเทศบาลตำบลทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ พลิกคว่ำหงายล้อชี้ฟ้า ภายในรถพบนายวรวุธ ซึ่งเป็นคนขับ และเป็นพนักงานของเทศมบาลตำบลทะเมนชัย ร่างถูกรถทับอัดก็อปปี้ติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างที่เสียชีวิตแล้วออกมา และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถอีก 1 ราย คือ นางสาวนิตยา ตำแหน่งนักวิชาการการคลังชำนาญการ ทำงานอยู่เทศบาลตำบลทะเมนชัย
นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์ กระบะสีบรอนซ์ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ยต940 นครราชสีมา กับรถยนต์ สีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บพ 4985 ขอนแก่น อยู่ในสภาพเบียดกัน ตกอยู่ไหล่ทางถนน โดยมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนช่วยนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่ง รพ.ลำปลายมาศ
สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า รถยนต์ของเทศบาลตำบลทะเมนชัย กับรถยนต์กระบะอีก 2 คัน ได้ขับมาจากตัว อ.ลำปลายมาศ พอมาถึงที่เกิดเหตุ รถยนต์เก๋ง สีดำ ที่ขับสวนทางมาจากตัวเมืองบุรีรัมย์ ขับแซงรถยนต์ที่วิ่งอยู่ด้านหน้า แล้วเกิดเสียพุ่งข้ามเลนมาชนประสานงานเข้าอย่างจังกับรถเทศบาลตำบลทะเมนชัย ที่วิ่งสวนทางมาจนเสียหลักพลิกคว่ำ รวมถึงรถยนต์ที่วิ่งตามรถยนต์เทศบาลตำบลทะเมนชัย อีก 2 คันเกิดเสียหลักเบียดกันตกไหล่ทางด้วย ซึ่งตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ และตรวจหาหลักฐานอื่นที่พบในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ที่แท้จริงต่อไป