เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์รายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ผ่านมา ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.สุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนสุรินทร์ เป็นประธานใน “พิธีฮาวปลึงจองได” ภาษาเขมรพื้นถิ่นสุรินทร์ หรือ การบายศรีสู่ขวัญตามประเพรีชาวเขมรโบราณ เพื่อทำการเรียกขวัญ ผูกข้อมือ และกล่าวอวยพร ให้กับ คู่บ่าว-สาว จำนวน 60 คู่ โดยมี นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสุรินทร์ กล่าวต้อนรับ คู่บ่าวสาว ทั้ง 60 คู่ ซึ่งมีทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเพณีจัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องมาถึง 13 ปี และจัดประกอบพิธี“พิธีฮาวปลึงจองได”ก่อนวันที่ 14 ก.พ.วันแห่งความรัก หรือวันวาเลนไทน์ หนึ่งวัน สำหรับ สุดเข้มขลังอลังการ “พิธีฮาวปลึงจองได” แบบฉบับเขมรโบราณ ด้วยการทำบายศรีสู่ขวัญตามประเพณี ของชาวเขมร พื้นถิ่นสุรินทร์ แต่โบราณ เพื่อความเป็นศิริมงคล โดยเรียกขวัญของ คู่บ่าว-สาว ให้มาอยู่กับเนื้อกับตัว พิธีสู่ขวัญนี้เป็นการแสดงความชื่นชมยินดี ให้กับเจ้าของขวัญ จากคณะญาติมิตรและบุคคลทั่วไป และมีด้ายสำหรับผูกข้อมือ (ด้ายผูกแขน) เปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของการรับขวัญและเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีพราหมณ์นำประกอบพิธีสวดในพิธีเป็นภาษาเขมรอีกด้วย โดยมีการจัดชุดพานบายสีที่ตกแต่งจากใบตองและเครื่องเซ่นไหว้ อาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม ต่างๆรวมทั้งดอกไม้ธูปเทียน ประดับอย่างสวยงาม นายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนสุรินทร์ และนางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสุรินทร์ พร้อมด้วย พ่อแม่ คู่บ่าว-สาว ครอบครัวญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง ต่างต่อคิวกันเข้าไปผูกข้อไม้ข้อมือคู่บ่าวสาว เพื่อความเป็นสิริมงคลตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่า มีเพื่อนชาวต่างชาติที่มาร่วมงานก็ต่างถือด้ายสายสิณจน์ ไปผูกข้อไม้ข้อมือเพื่อนชาวต่างชาติที่เป็นจ้าวบ่าวด้วยกัน ตามประเพณีไทยอีกด้วย ซึ่งเจ้าบ่าวชาวต่างชาติต่างมีความสุขและยกมือพนมไหว้ ระหว่างประกอบพิธีสุดเข้มขลังตามแบบฉบับเขมรโบราณ แม้ว่าจะฟังภาษาเขมรไม่รู้เรื่องก็ตาม และไหว้ผู้ที่มาผูกข้อมือฮาวปลึงจองไดให้อีกด้วย เป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางการบรรเลงเพลงจากวงกันตรึมกันแบบวงสดๆ ตามประเพณีของชาวเขมรโบราณ ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ด้าน นายกิติเมศวร์ รุ่งธนิเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนสุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับ“พิธีฮาวปลึงจองได” แบบฉบับเขมรโบราณ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์จัดขึ้นเป็นครั้งแรก พิธีทำขวัญผูกแขน จองไดภาษาแขนคือการผูกแขน โดยใช้ดอกไม้ และวัสดุจากธรรมชาติ แม้แต่ฉากหลังเป็นใบตอง เป็นอีกมิติหนึ่งการจดทะเบียนบนหลังช้างในครั้งนี้ เพราะว่าในวันพรุ่งนี้ จะมีขบวนขันหมากบนหลังช้างของเจ้าบ่าว แห่มาหาเจ้าสาว ที่ศูนย์คชศึกษา (คต-ชะ-สึก-ษา) ก่อนจะประกอบพิธีซัตเต หรือการแต่งงานแบบชาวกวยโบราณ จากนั้นคู่บ่าวสาวจะร่วมกันเลี้ยงอาหารช้าง และนั่งบนหลังช้างไปฉลองที่วังทะลุ ตรงจุดที่แม่น้ำมูลกับแม่น้ำชีมาบรรจบกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งจะเป็นจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก และในเช้าวันที่ 14 ก.พ.63 ททท.สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จะจัดงาน “แต่งงานและจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” อันยิ่งใหญ่ หนึ่งเดียวในโลก ณ ดินแดนถิ่นช้างใหญ่ จังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นเป้นครั้งที่ 13 ประจำปี 2563 ที่ ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ และ ร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตสืบสานประเพณีการแต่งงานแบบชนพื้นเมืองดั้งเดิมของสุรินทร์ให้คงอยู่สืบไป