สำหรับโครงการสวอนเลค เรสซิเด้นซ์ เขาใหญ่ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยความเป็นธรรมชาติ ได้ตอบโจทย์คนเมือง ด้วยผลตอบรับที่ดี จาก โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ระดับเอ็กซ์คลูซีฟ จำนวน 282 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่หลงใหลธรรมชาติแนวป่าเขา รักสุขภาพ และชื่นชอบการออกกำลังกาย จนมาถึงการร่วมมือกับอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป หรือ ไอเอชจี ที่เข้ามาช่วยบริหารโรงแรม ด้วยการดึงเครือข่ายสมาชิกในไอเอชจีที่มีมากกว่า 100 ล้านคน ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาสัมผัสความงามของสถานที่แห่งนี้เพิ่มมากขึ้น ในเรื่องนี้ นางสาวรีน่า อุดมคุณธรรม ประธานกรรมการ บริษัท อีลิเชี่ยน โฮเทล แมเนจเมนท์ จำกัด ได้สะท้อนแผนการตลาดได้อย่างน่าสนใจ เชนโรงแรมลักชัวรี่แห่งแรก ทั้งนี้ นางสาวรีน่า อุดมคุณธรรม ประธานกรรมการ บริษัท อีลิเชี่ยน โฮเทล แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป หรือ ไอเอเชจี พัฒนา โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่ ขยายเนื้อที่ 36 ไร่ ต่อจากโครงการสวอนเลค เรสซิเด้นซ์ เขาใหญ่ ซึ่งเป็น ที่พักอาศัย 282 ยูนิตที่ขายหมดแล้ว หลังจากเปิดตัว 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงได้ขยายโรงแรมต่อ เพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครอบคลุมการบริการ ด้วยงบลงทุนทั้งสิ้นกว่า 1,200 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่ สวอนเลค รีสอร์ท ซึ่งเป็นเชนโรงแรมลักชัวรี่ระดับโลกแห่งแรกในเขาใหญ่ โดยมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในตลาดบนจากเดิมที่มีนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก ให้รับรู้เป็นแหล่งฟื้นฟูร่างกายแบบธรรมชาติบำบัด สำหรับแผนการตลาดในเบื้องต้นจะเจาะกลุ่มคนไทยด้วยสัดส่วน 70% ก่อนจะขยายการรับรู้ให้ต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ส่วนสาเหตุที่เลือกใช้ แบรนด์อินเตอร์คอนติเนตัล เพราะมีเครือข่ายสมาชิกในไอเอชจีที่มีมากกว่า 100 ล้านคน และลูกค้าที่แข็งแกร่ง ทั่วโลก จึงน่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ สร้างแบรนด์ให้รู้จักอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะผลักดันให้อัตราการเข้าพักในช่วงโลว์ซีซัน และช่วงวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยในปีแรกที่จะเริ่มเปิดบริการในไตรมาสสุดท้ายของปีอยู่ที่ 80% โดยปี 2563 จะเริ่มเปิดให้บริการ 45 ห้อง และขยายเป็น 61 ห้องในปี 2564 โดยทางอินเตอร์คอนติเนนตัล เขาใหญ่ สวอนเลค รีสอร์ท จะมาเป็นส่วนเติมเต็มโครงการสวอนเลค ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสภายใต้แนวคิด เดสติเนชั่น รีทรีท หรือจุดหมายปลายทางแห่งความสุข ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติพร้อมชมวิวทะเลสาบในโครงการกว่า 7 แห่ง โอบล้อมด้วยภูเขาและต้นไม้ที่มีกว่า 50,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร ซึ่งภายในโครงการ มีห้องพักให้บริการจำนวน 61 ห้อง ซึ่งแขกคนพิเศษที่เข้าพักจะสามารถเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายใต้มาตรฐาน อินเตอร์คอนติเนนตัล รีสอร์ท ทั้งคลับเลาจน์รีสอร์ทเซ็นเตอร์ สระว่ายน้ำ และยิมออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาโครงการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้นในต้นปี ไม่ว่าจะเป็นสปาที่ตกแต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถไฟหัวรถจักร คลับสำหรับเด็ก รวมถึงโบสถ์จัดงานแต่งงานในฝัน สำหรับคู่รักที่ชื่นชอบบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ เติมเต็มโครงการสวอนเลค อย่างไรก็ตาม นางสาวรีน่า กล่าวว่า นอกเหนือจากความหรูหราและบรรยากาศที่โอบลอบด้วยธรรมชาติแล้ว ความพิเศษของรีสอร์ทแห่งนี้ คือ ความงามด้านสถาปัตยกรรมออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังที่ได้รับรางวัลจากผลงานการออกแบบมากมายอย่าง บิลล์ เบนสลีย์ ด้วยการใช้แรงบันดาลใจทางประวัติศาสตร์จากทางขนส่งรถไฟสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5ซึ่งหลังจากเปิดตัวด้วยห้องลักชูรี่จำนาน 45 ห้องแล้ว ยังมีแผนเปิดตัวห้องพักสวีทสุดพรีเมียมขนาด 80 ตารางเมตรเพิ่มอีกจำนวน 16 ห้อง โดยสร้างจากตู้รถไฟของจริง อันเป็นชิ้นงานมรดกทางประวัติศาสตร์ของไทยเพื่อสร้างห้องพักที่ให้กลิ่นอายสุดโรแมนติกของการเดินทางด้วยรถไฟสุดหรู ใจกลางอุทยานแห่งชาติ สำหรับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลกทางธรรมชาติที่รับรองโดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากเดินทางจากกรุงเทพเพียงสองชั่วโมงครึ่ง และยังเป็นสถานที่ที่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ สัตว์ป่า ต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณ และอากาศที่เย็นสบายปลอดโปร่ง อีกทั้งยังมีสนามกอล์ฟระดับโลกมากมายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ และจะเดินทางสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 เปิดให้ใช้บริการในปี 2563 นี้ อีกทั้ง นางสาวรีน่า กล่าวต่อว่า การร่วมมือกับอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป เป็นการนำเมาน์เท็น รีสอร์ทมาตรฐานระดับโลกมายังเขาใหญ่ ที่ถือเป็นดินแดนทางประวัติศาสตร์ที่มีเปี่ยมด้วยความงาม และยังเป็นพื้นที่สุดโปรดสำหรับคนไทยในการเข้าถึงธรรมชาติ โดยการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป และการมีส่วนร่วมในการเข้าถึงฐานกลุ่มลูกค้าสมาชิกของ ไอเอชจี โดยปัจจุบันไอเอชจีมีโรงแรมอยู่ 29 แห่งที่ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ต่างๆ 6 แบรนด์ในประเทศไทย